เข็มกลัดหยินหยางอาจารย์สง่ากุลกอบเกียรติพิธีเปิดเอนกกุศลศาลาวิหารเซียนจ.ชลบุรีรุ่น1ปีพ.ศ.2536เนื้อกะไหล่ทองลงยา

ท่านอาจารย์เซียน สง่า กุลกอบเกียรติ เป็นผู้สร้างเข็มกลัดหยินหยาง เนื้อกะไหล่ทองลงยา

พิธีเปิดเอนกกุศลศาลา (วิหารเซียน) 24 ธันวาคม 2536

            อาจารย์สง่า กุลกอบเกียรติในพระสายจีน ท่านถูกยกย่องให้เป็นเบอร์หนึ่ง ความเก่ง ไม่แพ้ แป๊ะโรงสี โง้วกิมโค้ย อ.เจ้าสัวซีพี ทางรัฐบาลจีนได้ มอบรางวัล บุคคลทรงคุณค่า ให้การยอมรับท่าน อ.เซียน สง่า กุลกอบเกียรติ    พระสังฆราช สมเด็จพระญาณสังวร บอก อ.เซียน สง่า เป็น คนที่ไม่ธรรมด

        หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ยังยอมรับว่าสายเทพเจ้าจีนนั้นมีอยู่ ญาณแรงจริงโดยเฉพาะแปดเซียน เมื่อครั้ง รับนิมนต์ไปนั่งปรกอธิษฐานจิตที่วัดมังกร เยาวราช ได้เจิมเป่านะปัดตลอดติดที่ป้ายวัดด้วย

        ในหลวง รัชกาลที่9 ยังทรงประคอง ท่าน อ.เซียน สง่า พระเทพท่าน ยัง ให้การ นับถือ ท่าน อ.เซียน สง่า เป็นพิเศษด้วย

         อย่างเศรษฐีเมืองไทยและต่างประเทศ จะทำโครงการหมื่นล้านแสนล้าน ถ้า อ.เซียน สง่า บอกไม่สำเร็จต้องเป็นอันล้มเลิกโครงการ แม่นยำรู้อนาคต ล่วงหน้า

         สมัยที่สร้างวัดญาณสังวรวราราม พัทยา จ.ชลบุรีใหม่ๆนั้น ได้ประสบปัญหาและอุปสรรคนานาชนิด ทั้งที่เกิดจากคนงานก่อสร้าง และจากสภาพภูมิ อากาศที่แปรปรวน จึงได้เชิญ ผู้ที่มีสมาธิจิตดี มาตรวจดูว่าเป็นเพราะเหตุใด ก็พบว่าบริเวณที่สร้างวัด นั้นมีความสัมพันธ์กับพระนเรศวรมากและมีดวงวิญญาณ ของผู้ที่ตายจาก สงครามอยู่มาก เป็นเหตุให้การทำงานมีอุปสรรค

            ความทราบถึงองค์สมเด็จ พระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชท่านก็เลย ได้เดินทางมาทำ พิธีแผ่เมตตา ให้แก่ดวงวิญญาณ เหล่านั้นด้วยพระองค์ เองแต่ปรากฏว่า ยิ่งแผ่เมตตาก็ยิ่งมีดวงวิญญาณ พากันมามาก ขึ้นจนท่าน ต้องมีบัญชาให้ไป ตามตัว ซินแส อ.เซียน สง่า กุลกอบเกียรติ(ผู้ก่อตั้งวิหารเซียน) มาช่วยตรวจดู ให้ ซึ่งเมื่อท่านมาตรวจดูแล้วก็รู้ว่าจุดที่ สร้างวัด เคยเป็นที่ เดินทัพและเกิด สงครามมาก่อน ท่านจึงได้เผาฮู้ ตรงใจกลาง ของที่นั้นซึ่งก็ได้มีคนที่ ตาดีได้ เห็นองค์ท่าน"ลื่อตงปิน"เสด็จมา บน หลังมังกร ซึ่งเมื่อท่านมาถึงพวกวิญญาณทั้งหลายก็กระเจิงหมด ซึ่งสถานที่ท่านได้เผาฮู้นั้นได้กลายเป็นใจกลาง พระอุโบสถในปัจจุบันนี้"