รหัสสินค้า | 1171 |
หมวดหมู่ | 14.เจ้าแม่ทับทิม เทียนโหวเซี๊ยบ้อ |
ราคา | 0.00 บาท |
อัพเดทล่าสุด | 6 ม.ค. 2564 |
ประวัติเจ้าแม่ทับทิม ( เทียนโหวเซี้ยบ้อ )
ท่านเกิดในครอบครัวขุนนาง บิดาท่านเป็นผู้ตรวจราชการแผ่นดิน บิดาและมารดาของท่านนั้น เป็นผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารีย์ เคร่งในพระพุทธศาสนามาก นั บถือพระโพธิสัตว์กวนอิม วันหนึ่งทั้งสอง ได้สวดอ้อนวอนขอพรจากพระโพธิสัตว์กวนอิม ให้พระองค์ประทานบุตรให้ เกิดนิมิตรอัศจรรย์เมื่อย่างเข้าเดือน 6 บิดาท่านได้ฝันว่า พระโพธิสัตว์ฯ ได้ประทานยาวิเศษ ให้กับภรรยาท่านกิน
ในเวลาต่อมา ภรรยาท่านก็ตั้งครรภ์ ก่อนที่จะคลอดได้เกิดปาฏิหารย์มีแสงสว่าง ส่องเข้ามา ในบ้านมีกลิ่นหอม เย็นสดชื่น และเมื่อย่างเข้าวันที่ 23 เดือน 3 ซึ่งเป็นวันเกิดของเจ้าแม่ทับทิม เทือกเขาที่อยู่ใกล้บ้าน ได้เปลี่ยนเป็นสีส้ม ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า จะมีผู้มีบุญลงมาเกิดในโลกมนุษย์
เมื่อท่านคลอดออกมานั้น เป็นเด็กน่ารัก ผิวพรรณสวยงาม ผิดจากเด็กทั่วๆไป อายุได้ 1 เดือน ไม่ร้องไห้ ไม่กวนบิดา มารดา บิดาท่านจึงตั้งชื่อว่า มิก เมื่อเจ้าแม่ฯ อายุได้ 8 ขวบ เข้าเรียนหนังสือ เจ้าแม่ฯก็สามารถอ่านออกเขียนได้เร็วและจดจำที่ครูสอนได้หมด
เมื่ออายุได้ 10 ขวบ ก็เป็นเด็กที่เงียบขรึม ชอบอยู่คนเดียวในที่สงบ นั่งสวดมนต์ภาวนา
เมื่ออายุได้ 13 ปี ได้พบกับเทวดาองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ถ่ายทอดวิชากระแสจิต และความรู้ เรื่องราวต่างๆของสวรรค์ ให้เจ้าแม่ฯได้รู้ทุกๆเรื่อง
พออายุได้ 16 ปี เจ้าแม่ฯเป็นสาวที่สวยงาม เป็นที่รักของพ่อแม่และคนรอบข้าง
สวรรค์ ได้มอบของวิเศษ ให้กับเจ้าแม่ฯ คือตราคู่หนึ่ง ไว้คุ้มครองตนเอง เมื่อบิดาท่านออกจากราชการแล้ว หันมาประกอบอาชีพค้าขาย วันหนึ่งบิดาและพี่ชายของท่าน ได้ออกเรือไปค้าขาย ก็ได้เกิดพายุฝน ซึ่งหนักมาก
ขณะนั้น เจ้าแม่ฯ กำลังทอผ้า เกิดสังหรณ์ใจขึ้นมาว่า บิดาและพี่ชายของท่าน จะได้รับอันตราย เจ้าแม่ฯ ได้นั่งหลับตามือ กำกระสวยจนแน่น เท้าก็เหยียบกี่ทอผ้าไว้ ไม่ให้เคลื่อนไหว นางได้ส่งกระแสจิตไป ช่วยประคองเรือไว้ไม่ให้ล่ม
นางได้พยายามอย่างสุดกำลัง แน่นิ่งอยู่ที่กี่ทอผ้า ขณะนั้นมารดาท่านเข้ามาเห็นเข้า ก็ตกใจ จึงได้ร้องเรียกเสียงดังๆ เจ้าแม่ฯท่านได้ยินเสียงมารดาท่านร้องเรียก ก็สะดุ้งตกใจ กระสวยที่กำอยู่ในมือ หลุดตกลงพื้น แล้วท่านก็ร้องไห้ มารดาท่าก็ตกใจ ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น นางจึงเล่าเรื่องให้มารดาฟัง ว่าขณะนี้บิดา และพี่ชายถูกพายุเรือล่ม พี่ชายจมน้ำตาย ส่วนพ่อนั้นปลอดภัยดี
สวรรค์ ได้ส่งศิษย์วิเศษ มาคอยรับใช้เจ้าแม่ 2 คน คนหนึ่งหูทิพย์ ได้ยินไกลถึง 1000 ไมล์ อีกคนหนึ่งตาทิพย์ มองเห็นไกลถึง 1000 ไมล์ เพื่อคอยช่วยเหลือ และติดตามเจ้าแม่ฯ
เมื่อท่านอายุได้ 26 เจ้าแม่ฯได้ช่วยห้ามฝน เพื่อไม่ให้เกิดอุทกภัยในเมือง เมื่ออายุได้ 29 ปี ท่านได้พูดกับบิดามารดาของท่านว่า ชอบอยู่ในที่สงบ บ้านที่อยู่นี้ไม่สงบเลย พรุ่งนี้จะขอไปเที่ยวบนภูเขาให้สบายใจ พอถึงตอนเช้า ท่านได้จัดดอกไม้ ธูป เทียน สวดมนต์เสร็จ ก็บอกกับบิดามารดาท่านว่า ไปเที่ยวนี้หนทางมันไกล ใจคอไม่ค่อยดีเลย พี่น้องต่างบอกว่า ไปเถอะ อย่าได้กังวลอันใดเลย
จากนั้น เจ้าแม่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล นั่งเสื่อลอยขึ้นบนท้องฟ้าจนหายลับไปในกลีบเมฆ จากนั้นก็เกิดเสียงดนตรีบรรเลงจากสวรรค์บรรเลงต้อนรับเจ้าแม่ขึ้นสู่สวรรค์
ตำนานปาฏิหาริย์ของเจ้าแม่ทับทิม (水尾聖娘) มีปรากฏหลากหลายไป ตามแต่ละท้องถิ่น และมีพระนามของพระองค์แตกต่างกันไป แต่ก็มีการไหว้บูชาเหมือนๆ กัน เพราะได้ประจักษ์ในปาฏิหาริย์ จนทำให้ผู้คนนับถือสืบต่อกันมาแต่โบราณกาล
ตำนานที่กล่าวถึงกันมากที่สุด ในประวัติศาสตร์คือ เรื่องราวในสมัยราชวงศ์หมิง ที่จักรพรรดิหย่อเล่อ มหาขันทีเจิ้งเหอ (郑和) หรือ หม่าซานเป้า (馬三寶) ได้นำสำเภาจีนขบวนใหญ่ ออกเดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรีและค้าขายยังที่ต่างๆ ทั่วโลก
ครั้งหนึ่ง เกิดพายุขนาดใหญ่กลางทะเล ขบวนสำเภาของ เจิ้งเหอล่มไปหลายลำ มหาขันทีเจิ้งเหอก็จนปัญญาที่จะป้องกันภัย ได้แต่อธิษฐานขอความช่วยเหลือจากเจ้าแม่ทับทิม อธิษฐานเสร็จ ปรากฏว่าพายุสงบลงอย่างรวดเร็ว ท้องฟ้า กลับมาใสสว่างอย่างปกติ เป็นที่มหัศจรรย์
ทำให้เจิ้งเหอ นำขบวนเดินทางต่อไป อย่างปลอดภัย ไปที่ใดก็พบแต่โชคพบแต่ความสำเร็จ แล้วก็ได้กลับแผ่นดินจีน พร้อมข้าวของมีค่าจากต่างแดนมากมายมหาศาล
กลับมาถึง เจิ้งเหอรีบเข้าเฝ้าจักรพรรดิหย่งเล่อ และทูลถวายเรื่องราวทั้งหมดที่เป็นปาฏิหาริย์ จักรพรรดิสดับแล้ว ก็เกิดศรัทธาในเจ้าแม่ทับทิมเป็นกำลัง ทำให้มีการบูชาเจ้าแม่ทับทิมทุกครั้งที่ ที่จะออกทะเล และถ้าขึ้นฝั่ง ณ ที่ใด ก็ไหว้ขอบคุณเจ้าแม่ทับทิมที่นั่น บ้างก็สร้างศาลเอาไว้
นั่นคือที่มาของการสืบทอดประเพณีบูชาเจ้าแม่ทับทิมมาจนวันนี้
ศาลเจ้าแม่ทับทิมที่ขึ้นชื่อเรื่องบันดาลโชคลาภ ในกรุงเทพมหานคร ได้แก่
1. ศาลเจ้าแม่ทับทิม สะพานซังฮี้ (水尾聖娘廟) เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ของชาวจีนไหหลำ เป็นที่เลื่องลือนับถือเรื่องการค้าและเรื่องโชคลาภ
2. ศาลเจ้าอาม้าเก็ง (天后聖母宮) อยู่บนชั้น 3 ของอาคารแห่งหนึ่งในซอยเจริญกรุง 12 ซึ่งก็ขึ้นชื่อในเรื่องโชคลาภและการเดินทางเป็นอย่างมาก
3. ศาลเจ้าแม่ประดู่ (老本頭媽宮) ตลาดเก่าเยาวราช (ซอยเยาวพานิช) จัดว่าเป็นเจ้าแม่ทับทิมองค์หนึ่ง ที่เด่นในเรื่องการขอบุตร เรื่องตำแหน่งหน้าที่การงานและเรื่องโชคลาภ
4. ศาลเจ้าแม่ทับทิม สะพานหัน (天后聖母宮) อยู่ตรงซอยจักรเพ็ชร หรือใกล้ๆ กับตรอกแขกพาหุรัดหรือห้างอินเดียเอ็มโพเรียม ศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้นชื่อมากในเรื่องโชคลาภและให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ
5. ศาลเจ้าแม่ทับทิม สะพานเหลือง (天后宮) ที่ซอยจุฬา 7 เขตปทุมวัน ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ยอมรับนับถือกันมากเรื่องหน้าที่การงานและอำนาจบารมี (นักการเมืองไทยหลายท่านมักมาไหว้ขอพรกันที่ศาลเจ้าแห่งนี้)
ความเชื่อและความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่ทับทิม
ที่เล่าขานและบูชา สืบต่อกันคือ เรื่องความสำเร็จ ปลอดภัยและโชคดีในการเดินทางทางน้ำหรือการค้า ผู้ที่ต้องการเช่าและบูชาเหรียญเจ้าแม่ทับทิม ต้องพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์ด้วยใจและความศรัทธา จะบังเกิดความสำเร็จในชีวิตทั้งด้านการค้าทั้งทางบก และโดยเฉพาะกิจการที่เกี่ยวกับทางน้ำทุกประเภทค่ะ
www.Luxuryhruhra.com ขอขอบพระคุณที่มาบางส่วนจากwww.dek-d.com และคุณอู๋สวือจื่อ (吳時子) จากนิตยสารโหรามหาเวทย์ ฉบับที่ 110 เมษายน 2559
รายละเอียดในการรับประกันพระ
ทางร้านรับประกันพระแท้ " ตามหลักมาตรฐานสากล " ของวงการพระเครื่อง
ในระยะเวลา 7 วัน หลังจากท่านได้รับพระหรือวัตถุมงคลจากทางร้าน
หากเก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนโดยไม่หักเปอร์เซ็นต์ใดๆ ทั้งสิ้น
หมายเหตุ สำคัญค่ะ
( ถ้าเกินระยะเวลา 7 วัน หลังจากได้รับสินค้าแล้ว ทางร้านไม่รับคืน ทุกกรณีค่ะ)
กรณีที่ต้องการคืนพระ ต้องผ่านการตรวจสอบ เงื่อนไขมีดังนี้
ส่งพระเข้าตรวจสอบกับทางสมาคมพระเครื่อง หรือ เว็บไซส์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับ และออกใบรับรองอย่างชัดเจน
( โดยชี้ชัดว่า "เก๊" ทางร้านยินดีคืนเงินให้ทันที และจะออกค่าใช้จ่ายในส่วนการตรวจสอบคืนให้ด้วยค่ะ )
ทางร้านจะไม่ยอมรับการตัดสินจากบุคคลใดๆ ทั้งสิ้นที่อ้างตัวเป็นผู้รู้ และ ไม่มีเอกสารการตรวจสอบชัดเจน
จะยอมรับเฉพาะกรณีที่แจ้งไว้ข้างต้นเท่านั้น
โดยวัตถุมงคลจะต้องอยู่ในสภาพเดิมเหมือนดังในรูป ไม่ล้างผิว ชำรุดหักบิ่น และเสียสภาพจากเดิม
หน้าที่เข้าชม | 2,389,819 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,754,828 ครั้ง |
เปิดร้าน | 12 ก.พ. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 8 ก.ย. 2568 |