รหัสสินค้า | 1924 |
หมวดหมู่ | 19.เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว |
ราคา | 0.00 บาท |
อัพเดทล่าสุด | 14 พ.ค. 2563 |
ตำนานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว จ.ปัตตานี
เรื่องเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวเป็นตำนานที่เล่ากันมาหลายร้อยปี ศาลที่ประดิษฐานรูปสลักเจ้าแม่ลิ่มกอเหนี่ยว ปัจจุบันตั้งอยู่กลางเมืองปัตตานี ชาวบ้านเรียก ศาลเจ้าเล่งจูเกียง ตำนานเกี่ยวกับศาลเจ้าแม่ลิ่มกอเหนี่ยวมีว่า แต่เดิมนั้นเมืองปัตตานีเรียกว่า เมืองตานี เป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่ง มีเรือสำเภานำสินค้าจากต่างเมืองมาค้า ขายและขนถ่ายสินค้าเป็นประจำ
ลิ้มโต๊ะเคี่ยมเป็นพ่อค้าหนุ่มชาวจีนนำเรือสำเภาไปค้าขายตามเมืองต่างๆ ได้แวะมาที่เมืองตานี และนำสินค้าเครื่องบรรณาการไปมอบให้เจ้าเมืองตานี จึงได้มีโอกาสพบธิดาเจ้าเมืองซึ่งมีรูป โฉมงดงาม ลิ่มโต๊ะเคี่ยมเกิดหลงรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ส่วนนางก็มีใจตรงกัน ติดขัดอยู่ที่ว่าฝ่ายชายเป็นคนต่างชาติ ต่างศาสนา บิดาของนางจึงขอให้ลิ้มโต๊ะเคี่ยมเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามตามอย่างนาง ซึ่งลิ้มโต๊ะเคี่ยมก็ยินยอมโดยได้ส่งเรือสำเภาให้เดินทางกลับไปส่งข่าวให้มารดาทราบว่าตนจะตั้งหลักแหล่งอยู่ที่เมืองตานี ไม่กลับไปเมืองจีนอีก เมื่อมารดาทราบข่าวก็เศร้าโศกเสียใจมาก นางลิ้มกอเหนี่ยวผู้เป็นน้องสาวจึงตัดสินใจเดินทางมาหาพี่ชายเพื่อขอร้องให้กลับไปเยี่ยมมารดา
เมื่อลิ้มกอเหนี่ยวมาที่เมืองตานี ก็พบว่าพี่ชายได้เข้ารีตนับถือศาสนาอิสลาม และกำลังเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยเจ้าเมืองตานีก่อ สร้างมัสยิดหลังใหญ่เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานทางศาสนาซึ่งนางเห็นว่าเป็นความผิดอย่างมหันต์ เพราะจะทำให้วิญญาณของบรรพ บุรุษต้องเสียใจที่ลูกหลานนอกรีตนอกรอย นางพยายามขอให้พี่ชายวางมือจากการก่อสร้าง แต่ลิ้มโต๊ะเคี่ยมก็ไม่ยอมฟังเสียง ในที่สุดนางลิ้มกอเหนี่ยวก็ลั่นวาจาสาปแช่งขออย่าให้พี่ชายสร้างมัสยิดได้สำเร็จได้ แล้วคืนนั้นเองนางก็ตัดสินใจผูกคอตายกับกิ่งมะม่วงหิมพานต์ที่ตรงหน้ามัสยิดที่กำลังก่อสร้างนั้น เมื่อลิ่มโต๊ะเคี่ยมรู้ก็เศร้าโศกเสียใจ และได้จัดการ ฝังศพนางไว้ใต้ต้นมะม่วงหิมพานต์ต้นนั้น
หลังจากทำศพน้องสาวเสร็จ ลิ่มโต๊ะเคี่ยมก็พยายามสร้างมัสยิดต่อไป โดยเจตนาให้เป็นอนุสรณ์แก่น้องสาวด้วยแต่ปรากฏว่าเมื่อสร้างไปถึงยอดโดมอันเป็นสัญลักษณ์สำคัญก็เกิดเหตุอัศจรรย์ฟ้าผ่าลงตรงกลางทำให้ยอดโดมพังทลายลงมา ครั้งแรกยังไม่มี ใครคิดเป็นอย่างอื่นนอกจากเห็นว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติและลงมือสร้างต่อไปใหม่ แต่พอสร้างถึงยอดโดมก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาเป็นครั้งที่สอง ทำให้ยอดโดมพังทลายลงไปอีก ลิ้มโต๊ะเคี่ยมจึงนึกถึงคำสาปแช่งของนางลิ้มกอเหนี่ยวขึ้นมาได้และสั่งให้คนวางมือจากการก่อสร้างทั้งๆที่สร้างเสร็จแล้วเป็นส่วนมากเหลืออยู่แต่เพียงยอดโดมที่เป็นสัญลักษณ์ของมัสยิดเท่านั้น
มีเรื่องเล่าว่า เมื่อประมาณร้อยปีมานี้ มีผู้พยายามสร้างยอดโดมต่อ แต่ก็ประสบเหตุอาถรรพ์เช่นเดิมอีก กล่าวคือเกิดฟ้าผ่าลงมาตรงกลางครั้งที่สาม เป็นเหตุให้ผู้คนเชื่อว่าเป็นเพราะคำสาปแช่งของนางลิ่มกอเหนี่ยวนั่นเอง ในปัจจุบันมัสยิดแห่งนี้ยังคงเหลือโครงร่างอยู่เช่นเดิม ที่บ้านกรือเซะ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 7 กิโลเมตร และหลุมศพของนางลิ่มกอเหนี่ยวก็ยังคงปรากฏอยู่เช่นกัน
เรื่องเมืองปัตตานีสร้างมัสยิดไม่สำเร็จเพราะคำสาปแช่งของนางลิ่มกอเหนี่ยวได้แพร่สะพัดไปทั่ว ต่างก็ร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์และอาถรรพ์ของคำสาป หลุมศพของนางลิ้มกอเหนี่ยวจึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีคนไปกราบไหว้ไม่ขาด และเชื่อกันว่าเป็นหลุมศพของเจ้าแม่ เมื่อมีเรื่องทุกข์ร้อนก็พากันไปบนบานศาลกล่าวขอให้เจ้าแม่ช่วยเหลือ และก็ปรากฏว่าสัมฤทธิผลไปตามๆกันคน จึงพากันนับถือมากขึ้นทุกที
ต่อมามีชาวจีนคนหนึ่งได้ตัดกิ่งมะม่วงหิมพานต์ที่นางลิ่มกอเหนี่ยวผูกคอตายนำไปแกะสลักเป็นรูป เหมือนของนางและสร้างศาลเล็กๆ ขึ้นไว้ใต้ต้นมะม่วงหิมพานต์นั้น นำรูปแกะสลักไปประดิษฐานไว้ให้คนไปเคารพบูชา
เมื่อไม่นานมานี้เอง ชาวจีนในจังหวัดปัตตานีส่วนมากมีความเห็นว่า ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวเป็นที่เคารพบูชาของคนทั่วไป ด้วยถือว่าเป็นศาลศักดิ์สิทธิ์ แต่ศาลนั้นตั้งอยู่ไกลจากตัวเมือง ไม่สะดวกแก่การประกอบพิธีบวงสรวง จึงได้ร่วมมือกันสร้างศาลเจ้าแห่งใหม่ขึ้นที่ตัวเมืองปัตตานี คือศาลเจ้าเล่งจูเกียง และอัญเชิญรูปสลักเจ้าแม่ลิ่มกอเหนี่ยวมาประดิษฐานที่ศาลเจ้าแห่งใหม่ และยังคงเป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วไปตราบจนทุกวันนี้
“เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” มีผู้คนหลั่งไหลไปกราบไหว้กันมากมาย มีเรื่องเดือดร้อนก็ไปบนบานให้เจ้าแม่ช่วยเหลือให้หายเจ็บไข้ได้ป่วยและให้มีโชคลาภ บ้างกราบไหว้เพื่อขอให้ทำมาค้าขายเจริญ เมื่อบนบานแล้ว ต่างก็บังเกิดผลตามความปรารถนาแทบทุกคน จึงทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวยิ่งแผ่ไพศาลไปยังเมืองอื่น ๆ มากขึ้น
www.Luxuryhruhra.com ขอขอบคุณข้อมูลที่มา thaigoodview.com
รายละเอียดในการรับประกันพระ
ทางร้านรับประกันพระแท้ " ตามหลักมาตรฐานสากล " ของวงการพระเครื่อง
ในระยะเวลา 7 วัน หลังจากท่านได้รับพระหรือวัตถุมงคลจากทางร้าน
หากเก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนโดยไม่หักเปอร์เซ็นต์ใดๆ ทั้งสิ้น
หมายเหตุ สำคัญค่ะ
( ถ้าเกินระยะเวลา 7 วัน หลังจากได้รับสินค้าแล้ว ทางร้านไม่รับคืน ทุกกรณีค่ะ)
กรณีที่ต้องการคืนพระ ต้องผ่านการตรวจสอบ เงื่อนไขมีดังนี้
ส่งพระเข้าตรวจสอบกับทางสมาคมพระเครื่อง หรือ เว็บไซส์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับ และออกใบรับรองอย่างชัดเจน
( โดยชี้ชัดว่า "เก๊" ทางร้านยินดีคืนเงินให้ทันที และจะออกค่าใช้จ่ายในส่วนการตรวจสอบคืนให้ด้วยค่ะ )
ทางร้านจะไม่ยอมรับการตัดสินจากบุคคลใดๆ ทั้งสิ้นที่อ้างตัวเป็นผู้รู้ และ ไม่มีเอกสารการตรวจสอบชัดเจน
จะยอมรับเฉพาะกรณีที่แจ้งไว้ข้างต้นเท่านั้น
โดยวัตถุมงคลจะต้องอยู่ในสภาพเดิมเหมือนดังในรูป ไม่ล้างผิว ชำรุดหักบิ่น และเสียสภาพจากเดิม
หน้าที่เข้าชม | 2,389,819 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,754,828 ครั้ง |
เปิดร้าน | 12 ก.พ. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 8 ก.ย. 2568 |