รหัสสินค้า | SKU-02321 |
หมวดหมู่ | 8. แปดเซียน,โป๊ยเซียนโจวซือ |
ราคา | 0.00 บาท |
อัพเดทล่าสุด | 18 ธ.ค. 2564 |
ไท้เสียงเหล่ากุง หรือ ไท่ซานเหล่าจวิน (太上老君) “ปรมาจารย์แห่งเต๋า”
ท่านถือกำเนิดเมื่อก่อนพุทธศก 27 ปี องค์ไท้เสียงเหล่ากุง เป็นเทพเบื้องบนลงมาจุติ โดยมารดาของท่านนั้น ตอนอายุ 19 ปี ได้ไปวิ่งเล่นในสวนแล้วเก็บผลลี้มารับประทาน หลังจากนั้นท่านก็เกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาองค์ไท้เสียงเหล่ากุง อยู่ในครรภ์มารดาของท่านถึง 81 ปี ซึ่งในระหว่างนั้น ท่านสามารถพูดจาสื่อสารโต้ตอบกับมารดาได้ ตลอด มารดาท่านเองก็ถามท่านว่า “ทำไมถึงไม่ยอมออกมาซักที” ท่านก็ตอบไปว่า หากท่านออกมา มารดาจะต้องเสีย ชีวิตเป็นแน่แท้ แต่มารดาของท่านก็ยืนกรานให้ท่านออกมา หากจะต้องเสียชีวิตมารดาก็ยอม องค์ไท้เสียงเหล่ากุง จึงได้ตกฟากออกมาทางใต้รักแร้ซ้ายของมารดา เป็นคนที่มีผมขาวโพลนทั้งศีรษะ และได้ชื่อว่า “เหลาจื้อ/เล่า จื้อ” ซึ่ง แปลว่า คนแก่เฒ่า/ทารกชรา ส่วนที่มีผู้เรียก เหล่า ตาน หรือ หรี่ เอ๊อร์ ก็ด้วยเหตุผลที่มีใบหูเพียงข้างเดียว กล่าวกันว่า “เหลาจื้อ/เล่า จื้อ” มีอายุยืนถึง 160 ปี
“เหลาจื้อ/เล่า จื้อ” เป็นคนแซ่หลี่ ชื่อเหลา เกิดในยุดเดียวและช่วงเวลาเดียวกับ"ขงจี้อ"แต่"เหลาจื้อ"จะแก่กว่าเล็กน้อย และอยู่กันคนละแคว้น
“เหลาจื้อ/เล่า จื้อ” รับราชการเป็นบรรณารักษ์ ที่หอสมุดหลวงของราชวงศ์โจว จึงมีโอกาสได้อ่านและสั่งสมความรู้ไว้มากทีเดียว จนปรากฎว่ามีชื่อเสียงโด่งดังเพราะมีอำนาจสติปัญญาที่ลึกซึ้งเว้นคนธรรมดาสามัญแต่ด้วยรักความเสรี ไม่สู้ผูกมัดกับนิติธรรมเนียมประเพณีอย่างชาวจีน ไม่ชอบชีวิตหรูหรา และขณะรับราชการได้เห็นความเสื่อมโทรมของราชวงศ์โจว บ้านเมืองและสังคมวุ่นวายในแคว้นฉู่ที่เหลาจื้อรับราชการอยู่ กษัตริย์ก็ไม่อยู่ในทศพิธราชธรรม ข้าราชการแก่งแย่งอิจฉาริษยา จึงเกิดความเบื่อหน่ายลาออกจากราชการ ขับเกวียนเทียมวัวดำสองตัวมุ่งไปยังภูเขาด้านทิศตะวันตก (ทิเบต) จาริกไปถึงด่านแห่งหนึ่ง เมื่อไปถึงประตูเมืองนายประตูจำได้ จึงขอร้องให้ท่านหยุดพักเพื่อเขียนปรัชญาแห่งชีวิต ท่านจึงได้เขียนตำราเป็นอักษรจีน 5,500 ตัว จากนั้นได้เดินทางต่อไป ปรากฏว่าพอถึงช่องแดนระหว่างภูเขา ท่านก็หายเข้าไปในก้อนเมฆ ตั้งแต่นั้นมาไม่มีใครเห็นท่านอีกเลย
คัมภีร์ที่ว่านี้ มีชื่อว่า เต๋า - เต๋อ - จิง (Tao - the - jing) หรือ เต๋าเต็กเก็ง แปลว่า คัมภีร์แห่งมรรคและอำนาจ
(แปลเป็นไทยได้ตรงตัวว่า คัมภีร์คุณธรรมของเต๋า เต็ก = คุณธรรม / เก็ง = คัมภีร์)
เล่าจื้อเริ่มต้นด้วยการตอบปัญหาที่ว่า "อะไรคือแก่นของเอกภพ" "ถ้าเราสามารถมองไปเบื้องหลังปรากฏการณ์ของสิ่งทั้งหลายได้ และพบลักษณะการที่ชีวิตเกิดขึ้นแล้ว เราจะดำเนินชีวิตอย่างไร?"
แก่นแท้ของเต๋าลึกลับกว่าความลึกลับใด ไม่ใช่พระเป็นเจ้า แต่เป็นพลังหรืออำนาจที่หลั่งไหลท่วมท้นทุกสิ่งทุกอย่าง มีความรักทะนุถนอม แต่ก็ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือยึดถือยึดติดสิ่งใดเป็นเจ้าของ เป็นสิ่งที่ทำงานอย่างนุ่มนวลและสงบเสงี่ยม โดยไม่ต้องพยายาม สิ่งทั้งหลายก็จะเกิดผลอย่างมีประสิทธิภาพ ให้พิจารณาไปแต่ละปีของฤดูทั้ง 4 ซึ่งดำเนินไปตามกฏเกณฑ์จากฤดูหนึ่งไปสู่ฤดูหนึ่ง ชนิดไม่ทันได้สังเกต ถึงอย่างนั้น ในแต่ละฤดูธรรมชาติทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่ โดยปราศจากความวุ่นวาย เพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี
ความคิดของเต๋ามีบ้างที่คล้ายคำสอนของพระพุทธศาสนา เพราะผู้คิดล้วนคิดจากชีวิตจริงของคน คือ การสอนให้คนเข้าใจชีวิต เน้นให้มีใจสงบสุข กับปรัชญามากมายเป็นวลีสั้นๆ แต่ลึกซึ้ง-กินใจ เช่น ความจริงอาจฟังไม่รื่นหู แต่ที่ฟังรื่นหูอาจไม่ใช่ความจริง
นอกจากคำสอนของศานาเต๋าแล้ว สิ่งที่องค์ไท้สั้งเหล่าจวิน/ไท้เสียงเล่ากุง/ไท้ซ่านเหล่าจวิน หรือ เล่าจื๊อมอบทิ้งไว้ให้บรรพชนคนรุ่นหลังยังเป็น
เจ้าของสัญลักษณ์ หยิน-หยาง หรือกฏแห่งความสมดุลของธรรมชาติ เป็นปรัชญาของลัทธิเต๋าที่เชื่อว่าสรรพสิ่งบนโลกใบนี้จะต้องมีสิ่งคู่กันเสมอ มีมืดก็ต้องมีสว่าง มีร้อนก็ต้องมีเย็น มีผู้หญิงก็ต้องมีผู้ชาย หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป หรือมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากหรือน้อยเกินไป ก็จะเกิดภาวะไม่สมดุลซึ่งจะนำหายนะมาให้
ต้นกำเนิดของปรัชญาด้วยหลักความเป็นธรรมชาติ เป็นที่มาแห่งรากฐานของวิ ชาฮวงจุ้ย
ปรัชญา “ ในขาวมีดำ ในดำมีขาว ” ไม่มีในมี มีในไม่มี ไม่ว่าจะคนเรามีดีมีเลว ในความเป็นคนดีก็มีความเลวปนอยู่ และคนที่สังคมว่าเลวก็มียังมีส่วนดีๆ อย่างน้อยคนเลวก็ช่วยเปรียบเทียบให้เรารุ้ว่า คนดีเป็นอย่างไร
วิธีการบูชาขอพรองค์ไท้เสียงเล่ากุง
"องค์ไท้เสียงเล่ากุง" (เล่าจือ) ช่วยให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจ หน้าที่การงานและมีโชคลาภ
องค์ไท้เสียงเล่ากุงเป็นเทพเจ้าแห่งสุขภาพและความสมดุล ผู้ที่ต้องการให้สุขภาพแข็งแรงจะนิยมกราบไหว้ขอพร ท่านใดทื่มีโอกาสมีเวลาสามารถไปไหว้สักการะเพื่อขอพรได้ที่ศาลต่างๆเช่น
ศาลเจ้าหลี่ตี้เบี้ยว เยื้อง สน.พลับพลาไชย
ศาลเจ้าไท้เสียงเล่ากุง ชลบุรี มูลนิธิโลกุตรธรรมประทีป อ่างศิลา จ.ชลบุรี
ของที่นำมาถวาย ต้องเป็นอาหารเจหรือผลไม้นะค่ะ
แ ป ด เ ซี ย น เ ท พ 8 อ ง ค์ ผู้ อำ น ว ย โ ช ค ล า ภ แ ล ะ ค ว า ม ร่ำ ร ว ย
แปดเซียน หรือ โป๊ยเซียน มีนามว่า
1. ทิก๋วยลี้ เซียนแห่งยา และการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
2. ฮั่นเจงหลี เซียนแห่งโชคลาภ การบริการ การปกครอง
3. ลื่อทงบิน เซียนแห่งการรักษาโรค
4. เจียงกั๋วเล้า เซียนแห่งความมั่นคง อายุยืน สุขภาพดี
5. น่าใช้หัว เซียนแห่งมวลบุปผาชาติ ความอุดมสมบูรณ์
6. นางฮ่งเซียนไกว เซียนแห่งความดีงาม ความซื่อสัตย์
7. ฮั่นเซียงจื้อ เซียนพยากรณ์ ผู้หยั่งรู้ และการดนตรี
8. เช่าก๊กกู่ เซียนแห่งยศฐาบรรดาศักดิ์
ตำนานเกี่ยวกับโป๊ยเซียนนั้นมีอยู่หลายตำนาน แต่ละยุคแต่ละสมัยก็แตกต่างกันออกไป มากบ้างน้อยบ้าง เช่น
ปลายราชวงศ์ถัง เกิดโรคระบาดระบาดไปทั่วมหาสมุทรตงไห่ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนเป็นทุกข์ทุกหย่อมหญ้า เพื่อปัดเป่าทุกข์ภัยให้สรรพชีวิต ฮั่นจงหลี และเถี่ยก๋วยหลี่สองเซียนจึงพากันมายังแดนมนุษย์โดยไม่ได้นัดหมาย มีเพียงโอสถทิพย์บนเกาะโอสถซึ่งตั้งอยู่ในมหาสมุทรตงไห่เท่านั้นที่สามารถ ปัดเป่าทุกข์ภัยให้สรรพชีวิตได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ทั้งสองเซียนจึงพากันเดินทางไปที่มหาสมุทรตงไห่ แต่ถูกขัดขวางจากจ้าวสมุทรทำให้โอรสของจ้าวสมุทรตงไห่ เสียชีวิตจากการต่อสู้ นับแต่นั้นมาจ้าวสมุทรก็ไม่ยอมให้ผู้ไดข้ามมหาสมุทรอีกเลย ร้อนถึงเจ้าแม่กวนอิมให้พรว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นผลมาจากเวรกรรมแต่เก่าก่อน จึงขอให้ มีเพียงพลังของแปดเซียนเท่านั้น ที่สามารถข้ามสมุทรไปได้
เมื่อเซียนทั้งแปดรวมตัวกัน เพื่อเดินทางข้ามมหาสมุทร สำแดงอิทธิฤทธิ์ของตนเพื่อข้ามไป เมื่อแปดเซียนถึงเกาะโอสถแล้วก็พบว่าจ้าวสมุทรตงไห่คอยอยู่และตั้งใจทำลายโอสถทิพย์ต่อหน้าต่อตาแปดเซียน
แปดเซียนรวมพลังกันต่อสู้กับจ้าวสมุทรตงไห่ แม้ว่าจ้าวสมุทรตงไห่ร้ายกาจเพียงใด แต่ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของแปดเซียน ในที่สุดแปดเซียนก็สามารถสยบจ้าวสมุทรตงไห่ลงได้ สามารถนำโอสถทิพย์ไปปัดเป่าทุกข์ภัยให้สรรพชีวิต ทำลายโรคระบาด ทำให้สรรพชีวิตกลับสู่สภาวะปกติ
หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจแล้ว แปดเซียนก็พากันกลับสรวงสวรรค์
มี สำนวนจีนที่ว่า “แปดเซียนข้ามทะเล ต่างแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์” เป็นสำนวนที่แสดงความหมายเชิงเปรียบเทียบว่า การทำสิ่งใดต่างก็มีวิธีการของตนเอง และยังหมายความถึง แต่ละคนแสดงความสามารถของตนเองออกมาเพื่อแข่งขันกัน มุ่งสู่ความสำเร็จเดียวกัน
八仙 ปาเซีย แปลว่า แปดเซียน
过 กั้ว แปลว่า ข้าม ผ่าน
海 ไห่ แปลว่า ทะเล
各 เก้อ แปลว่า แต่ละ ทุก
显 เสี่ยน แปลว่า แสดง ปรากฎ
神通 เสินทง แปลว่า อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์
โป๊ยเซียน (แปดเซียน) ประกอบไปด้วย
1. หลีเถียไกว่ (ลี้ทิไกว้) ทิก๋วยลี้ เซียนแห่งยา และการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
เกิดในสมัยราชวงศ์จิวเป็นผู้มีความกตัญญูสูงส่ง แสร้างทำตนเป็นคนพิการ หมั่นฝึกฝนบำเพ็ญธรรมจนภายหลังบรรลุแจ้งในมรรคผล ได้รับสถาปนาเป็นธรรมาจารย์แห่งฮั่วตัว
ถือ ไม้เท้าและสพายน้ำเต้าเป็นสัญลักษณ์มงคล
2. จงหลีเฉวียน (หั่งเจ็งลี้) ฮั่นเจงหลี เซียนแห่งโชคลาภ
เกิดในสมัยราชวงศ์ฮั่น เป็นชาวเมืองเกียเตี๋ยว บำเพ็ญเต๋าจนสำเร็จเป็นเซียน ณ ถ้ำเจี้ยเอี๊ยงจึงได้รับสถาปนาเป็นเทพบดีแห่งเจี้ยเอี๊ยง
ถือพัดเป็นสัญลักษณ์มงคล
3. หลี่ว์ท่งปิน (ลื่อท่งปิง) หลี่ตงปิน เป็นเซียนแห่งธุรกิจการค้าอุตสาหกรรม ปัญญาชน จินตกวี
เกิดในสมัยราชวงศ์ถัง เป็นบุรุษหนุ่มรูปงามแห่งเมืองฮ่อตง ได้รับเมตตาชี้แนะจากท่านอาจารย์ฮั้นเจงลี้ บำเพ็ญพรตจยสำเร็จเป็นเซียนมีฉายาว่า ซุ่งเอี๊ยงจื้อ สมัยราชวงศ์หยวนได้รับสถาปนาเป็นเทพบดีฮูอิ๋ว
ถือ สะพายกระบี่และถือแส้จามรเป็นสัญลักษณ์มงคล
4. จางกั่วเหลา (เตียก้วยเล่า) เจียงกั๋วเล้า เซียนแห่งความมั่นคง อายุยืน สุขภาพดี และจิตรกร
เกิดในราชวงศ์ถังเป็นผู้เฒ่าชาวเมืองเฮี่ยงซัว มีใจเมตตาช่วยเหลือผู้ที่ทุกข์ยาก มักซ่อนตัวในป่าเขาควบขับฬ่อเป็นพาหนะโดยหันหน้าไปด้านหลัง ได้รับสมญาว่า ซินแสทงเฮี้ยง
ถือ กระบองไม้ไผ่เป็นสัญลักษณ์มงคล
5. หลันไฉ่เหอ (หน่าไฉฮั้ว) หลันไช่เหอเป็นเซียนแห่งมวลบุปผาชาติและความอุดมสมบูรณ์
เกิดในสมัยราชวงศ์ถัง เป็นเด็กหนุ่มชาวเมืองฉางอัน ชอบจาริกสัญจรไปตามป่าเขาลำเนาไพร แลขับลำนำธรรมกวีปลุกเตือนชาวโลก ได้รับเมตตาชี้แนะจากท่านอาจารย์ลี้ทิก้วย จนบรรลุมรรคผล
ถือ กระเช้าดอกไม้เป็นสัญลักษณ์มงคล
6. เหอเซียนกู (ฮ้อเซียนโกว) เหอเซียนกู่เป็นเซียนแห่งความดีงาม ความซื่อสัตย์ กตัญญู เกษตรกรรม
เกิดในสมัยราชวงศ์ถัง เป็นสตรีหนึ่งเดียวในคณะแปดเซียน ได้รับเมตตาจากท่านอาจารย์ลื่อท่งปิง ชี้แนะหลักธรรม ภายหลังไปบำเพ็ญพรต ณ ภูเหล่งโฮ้ว จนสำเร็จเป็นเซียน สมัยราชวงศ์หยวนได้รับสถาปนาเป็นเทวีโหน่ยฮวย
ถือ ดอกบังเป็นสัญลักษณ์มงคล
7. หันเซียงจื่อ (ฮั่งเซียงจื้อ )หันเซียงจื่อเป็นเซียนแห่งการพยากรณ์ ผู้หยั่งรู้ และการดนตรี
เกิดในสมัยราชวงศ์ถัง เป็นชาวเมืองหน่ำเยง มีความสันทัดจัดเจนในกวีนิพนธ์และคีตศิลป์ เป็นหลานชายของเสนาบดีฮั่งยู่ ได้รับการชี้แนะจากท่านอาจารย์ลื่อท่งปิง แล้วไปบำเพ็ญพรต ณ ภูเขาเทียนซัว จนสำเร็จเป็นเซียน
ถือ ขลุ่ยเป็นสัญลักษณ์มงคล
8. เฉากว๋อจิ้ว (เฉ่าก๊กกู๋) เช่าก๊กกู่ เซียนแห่งยศฐาบรรดาศักดิ์ ราชการและ ความซื่อสัตย์
เกิดในสมัยราชวงศ์ซ้ง เป็นพระเจ้าน้าของฮ่องเต้ซ่งหยิ่งจง มีความเชี่ยวชาญในตันตวรรณคดี ภายหลังเบื่อหน่ายโลกียวัตร ได้รับการชี้แนะจากท่านอาจารย์ฮั้นเจงลี้ และสื่อทงปิง จนบรรลุธรรมลึกซึ้ง
ถือ กรับเป็นสัญลักษณ์มงคล
หมายเหตุ ชื่อในวงเล็บเป็นชื่อในสำเนียงแต้จิ๋ว ที่คนไทยคุ้นเคยกันมากกว่าค่ะ
โป๊ยเซียนก็ได้กลายมาเป็น “สัญลักษณ์”ของความเป็นสิริมงคล กลายเป็นสัญลักษณ์ของการอำนวยพรวันเกิดไปในที่สุด
นอกจากนี้ รูปสัญลักษณ์ของโป๊ยเซียน ยังสามารถใช้ภาพของวิเศษทั้งแปดอย่างเป็นสัญลักษณ์แทนตัวโป๊ยเซียนได้เช่นกัน สัญลักษณ์ทั้งแปดอย่างนี้เป็นของใช้หรืออาวุธประจำตัวของเซียนทั้งแปดที่เรียกกันว่า “ปาเป่า” (八宝) หรือ “อั้นปาเป่า” (暗八宝) แปลว่า ของวิเศษ 8 ชนิดของโป๊ยเซียน ซึ่งถือกันว่าเป็นของสิริมงคลที่สามารถขจัดสิ่งชั่วร้ายและภูตผีปีศาจ
สัญลักษณ์ของโป๊ยเซียนจะมีความหมายถึง “ความสุข ความโชคดี และขออำนวยพรให้มีอายุยืนยาว”
www.Luxuryhruhra.com – ขอขอบพระคุณที่มาจากหนังสือ 108 ลัญลักษณ์จีน –คุณปิยะแสง จันทรวงศ์ไพศาล มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
รายละเอียดในการรับประกันพระ
ทางร้านรับประกันพระแท้ " ตามหลักมาตรฐานสากล " ของวงการพระเครื่อง
ในระยะเวลา 7 วัน หลังจากท่านได้รับพระหรือวัตถุมงคลจากทางร้าน
หากเก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนโดยไม่หักเปอร์เซ็นต์ใดๆ ทั้งสิ้น
หมายเหตุ สำคัญค่ะ
( ถ้าเกินระยะเวลา 7 วัน หลังจากได้รับสินค้าแล้ว ทางร้านไม่รับคืน ทุกกรณีค่ะ)
กรณีที่ต้องการคืนพระ ต้องผ่านการตรวจสอบ เงื่อนไขมีดังนี้
ส่งพระเข้าตรวจสอบกับทางสมาคมพระเครื่อง หรือ เว็บไซส์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับ และออกใบรับรองอย่างชัดเจน
( โดยชี้ชัดว่า "เก๊" ทางร้านยินดีคืนเงินให้ทันที และจะออกค่าใช้จ่ายในส่วนการตรวจสอบคืนให้ด้วยค่ะ )
ทางร้านจะไม่ยอมรับการตัดสินจากบุคคลใดๆ ทั้งสิ้นที่อ้างตัวเป็นผู้รู้ และ ไม่มีเอกสารการตรวจสอบชัดเจน
จะยอมรับเฉพาะกรณีที่แจ้งไว้ข้างต้นเท่านั้น
โดยวัตถุมงคลจะต้องอยู่ในสภาพเดิมเหมือนดังในรูป ไม่ล้างผิว ชำรุดหักบิ่น และเสียสภาพจากเดิม
หน้าที่เข้าชม | 2,389,819 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,754,828 ครั้ง |
เปิดร้าน | 12 ก.พ. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 8 ก.ย. 2568 |