รหัสสินค้า | SKU-02765 |
หมวดหมู่ | 2. เจ้าพ่อกวนอู,เตียวหุย,กวนเม่ง,จิวฉอง |
ราคา | 0.00 บาท |
อัพเดทล่าสุด | 25 ม.ค. 2568 |
เหรียญเจ้าพ่อกวนอูศาลเจ้าพ่อกวนอูซิงเฮงเซียรุ่นแรกเนื้อทองแดง
รายละเอียดสินค้า
ขนาดความกว้าง 2.3 เซนติเมตร
ขนาดความยาว,สูง 3.5 เซนติเมตร
สินค้านี้เป็นพระเก่าเก็บ ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน อาจมีคราบสนิม ความเก่าที่เกิดตามกาลเวลา
พิจารณาได้ตามรูปค่ะ
ศาลเจ้าพ่อกวนอู ซิงเฮงเซี๋ย
วันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๓๐ ชาวเดนมาร์ค ๓ คน ขอสัมปทานเดนรถรางจากหลักเมืองถึงบางคอแหลม
วันที่ ๒๒ กันยายน พ.ศ.๒๔๓๑ เปิดการเดินรถราง จากหลักเมืองถึงบางคอแหลม
ครั้น พ.ศ.๒๔๓๒ มีโรงสีข้าวขนาดใหญ่ๆตั้งขึ้นหลายโรง เรือกำปั่นไฟก็มีมารับสินค้ามากขึ้น เป็นเหตุให้จีนใหม่เข้ามามากกว่าแต่ก่อน พวกจีนใหม่ที่เข้ามาหากินในเมืองไทยสมัยนั้น มีทั้งจีนแต้จิ๋วมาจากซัวเถาและจีนฮกเกี้ยนมาจากเมืองอ้อหมึง จีนสองจำพวกนี้พูดภาษาต่างกัน และถือว่าชาติภูมิต่างกัน แม้มีพวกเถ้าแก่รับจีนอยู่อย่างแต่ก่อน พวกจีนใหม่ต่างถือกันว่าเป็นพวกเขาพวกเรา พวกแต้จิ๋วทำงานอยู่ที่ไหนมากก็คอยรังเกียจรังแกพวกฮกเกี้ยน มิให้เข้าไปแทรกแซงแย่งงานพวกฮกเกี้ยนก็ทำเช่นนั้นบ้าง จึงเกิดเกลียดชังกันไปประชันหน้ากันที่ไหนก็มักเกิดชกตีวิวาท ในระหว่างกรรมกรจีนแต้จิ๋วกับฮกเกี้ยนเนืองๆ เลยเป็นปัจจัยให้อั้งยี่รวมกันเป็นพวกใหญ่แต่ ๒ พวกเรียกว่า“ตั้งกงสี”ของจีนแต้จิ๋วพวกหนึ่ง อีกพวกหนึ่งเรียกว่า“ซิวลี่กือ”ของจีนฮกเกี้ยน ต่างประสงค์จะแย่งงานกันและกัน
ศาลเจ้าพ่อกวนอู ตั้งอยู่ในซอยเจริญกรุง 91 และ 93 ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันสามารถนำรถยนต์เข้ามาได้
ประวัติความเป็นมา
ศาลเจ้าพ่อกวนอูสมัยก่อน มีสภาพเป็นกระต๊อบคู่แฝด สร้างขึ้นด้วยโครงไม้ไผ่ ฝาขัดแตะและหลังคามุงจาก ซ่อนตัวอยู่ในสวนผลไม้ มีสระน้ำอยู่หน้าศาล มีน้ำใสสะอาดสำหรับดื่มกิน ส่วนน้ำใช้และซักล้างก็ไปตักหาบจากชายคลองปากทางเข้าศาลเจ้านั่นเอง ภายในศาลเจ้า มีรูปภาพเทพเจ้ากวนอูกับสองทหารเอกใส่กรอบกระจำตั้งอยู่บนแท่นบูชา กลิ่นควันธูปหอมกรุ่นอบอวลชื่นใจ แสงจากตะเกียงน้ำมันก๊าดหรี่สลัวๆ และบรรยากาศภายในห้องสงบเงียบ เย็นสบายดุจมีมนต์ขลัง สร้างความศรทธาพาให้จิตนิ่งดังเป็นสมาธิโดยแท้
เมื่อถึงเทศกาลไหว้เจ้า ศาลเจ้าแห่งนี้จะมีผู้คนมากมาย เข้ามากราบไหว้เทพเจ้ากวนอู และชุมนุมพบปะสังสรรค์กัน มีคณะกรรมการบริหารดูแลศาลเจ้า มีการจัดตั้งโครงการสงเคราะห์แก่ชาวชุมชนหลายโครงการ เช่น โครงการการศึกษา โดยการจัดตั้งโรงเรียนเล็กๆ สอนหนังสือทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ไม่รู้ภาษาไทยและภาษาจีน สำหรับครูผู้สอนก็หาได้จากผู้อาสาสมัครภายในชุมชนนั้นเอง โครงการหน่วยอาสาบรรเทาสาธารณภัย หน่วยนี้ให้ความช่วยเหลือหลายด้าน เช่น กรณีไฟไหม้ น้ำท่วม ภัยธรรมชาติ อุบัติเหตุต่างๆ และอื่นๆที่พอจะช่วยเหลือกันได้
สมัยนั้นการจราจรไปมาไม่ค่อยจะรีบร้อนนัก เวลาไปไหนมาไหน เขาใช้เรือแจว เรือพายกันเป็นพาหนะ น้ำในคลองเต็มตลิ่ง ลำคลองกว้างลึกพอสมควร สามารถพายเริอทะลุถึงกันได้ทุกคลอง หรือจะพายเรือสู่แม่น้ำเจ้าพระยาก็ไปได้ น้ำในคลองมีการถ่ายเทตลอดเวลา พอน้ำขึ้น น้ำใสจะไหลจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามาและกวาดชะล้างน้ำสกปรกกลับไปตอนน้ำลง ใช้บริโภคได้ทุกฤดูกาล สำหรับสินค้า อาหารกับข้าวกับปลา ผักหญ้าแทบจะไม่ต้องไปหาซื้อกันที่ไหน พ่อค้าแม่ขายจะจัดขนใส่เรือมาจอดเทียบบันไดท่าน้ำกันเลยทีเดียว ส่วนทางบกนั้น หนทางไม่ค่อยสะดวกนัก เพราะอาณาบริเวณเป็นพื้นที่ลุ่ม ชาวชุมชนพร้อมใจกันทพสะพานเป็นทางเดิน ปูด้วยไม้กระดาน บางช่วงเป็นกระดานแผ่นเดียว บางช่วงเป็นกระดานแผ่นคู่ ผ่านหน้าบ้านใครก็ให้ทำสะพานเข้าบ้านของตนกันเอาเอง เส้นทางสายหลักก็จะปูไม้กระดาน ๒-๓ แผ่น เลียบคลองยาวไปจนถึงปากทางถนนเจริญกรุง
งานแห่เทพเจ้า
เพื่อให้การต้อนรับเทพเจ้ากวนอู เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ งศาลเจ้าจึงได้จัดงานแห่เทพเจ้ากวนอูขึ้น เป็นการฉลองความศรัทธาแก่ผู้คนภายในชุมชนและนอกชุมชนละแวกบ้านใกล้เคียง งานแห่ศาลเจ้ากวนอูได้จัดขึ้นครั้งแรกในเดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๓๘ และจะจัดเป็นประเพณีติดต่อกันไปทุกปี โดยทางคณะกรรมการได้กำหนดงานแห่เทพเจ้ากวนอู ในราวต้นเดือนมกราคม-กุมภพันธ์(ก่อนวันตรุษจีนประมาณ ๓ สัปดาห์) นับเป็นเกียรติประวัติ ดีเด่นของศาลเจ้า ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มงานแห่เจ้าอย่างเป็นทางการ รายแรกในเขตบางคอแหลม
ประวัติเทพเจ้ากวนอู
“กวนอู” หรือชื่อในสำเนียงจีนกลางว่า “กวนอวี่(关羽)”
ได้รับการยกย่องเทิดทูนอย่างสูงจากชาวจีนในปัจจุบัน ในทางลัทธิเต๋าได้ยกย่องให้กวนอูเป็น “เซียน” แห่งความภักดีและซื่อสัตย์ อีกทั้งยังถือว่าเป็น “เทพ” แห่งโชคลาภ เรียกกันว่า “อู่ไฉเสินเย่” หรือ “ไฉซิงเอี๊ยบู้(武财神爷)” ในขณะที่ทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานยกย่องให้กวนอูเป็นโพธิสัตว์องค์หนึ่ง เรียกกันว่า พระสังฆรามโพธิสัตว์ หรือ “เจียหลานผูซ่า” (伽蓝菩萨)
คติการนับถือกวนอูเป็นเสมือนดั่งประหนึ่งเทพเจ้านั้น มีที่มาเริ่มต้นเมื่อ ค.ศ.1102 ในสมัยราชวงศ์ซ่ง รัชสมัย ซ่งฮุยจงฮ่องเต้ โดยได้พระราชทานอวยยศบรรดาศักดิ์ให้กวนอูเป็น “จงฮุ่ยกง(忠惠公)” หมายถึง เทพผู้ภักดี นับตั้งแต่นั้นมา ในทุกราชวงศ์หลังจากนั้นคือ ราชวงศ์หยวน, หมิง และชิง ก็ได้มีการถวายบรรดาศักดิ์ให้แก่กวนอู จนมีฐานะเป็นดั่งเทพเจ้าองค์หนึ่งของจีน ชาวบ้านทั่วไปจะเคารพเทิดทูนกวนอูเป็นอย่างสูง และมักเรียกท่านว่า “กวนเซิ่งตี้จวิน(关圣帝君)”, “กวนกง (关公)” , “กวนตี้ (关帝)”, “กวนเหล่าเย่ (关老爷)” , “กวนเอ้อเย่ (关二爷)” และ “กวนเอ้อเกอ(关二哥)” เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ในประเทศจีนมีศาลเจ้าของกวนอูเป็นจำนวนมาก และยังแพร่หลายในไต้หวัน ฮ่องกง รวมทั้งในประเทศต่าง ๆทั้งในเอเชียและยุโรป ที่มักจะมีศาลกวนอูอยู่ตามแหล่งชุมชนชาวจีนทั่วทุกมุมโลก
ในประวัติศาสตร์จริงของกวนอู เป็นบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงในปลายราชวงศ์ฮั่นและสมัยสามก๊กที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักกันดี กวนอู(กวนอวี่) มีชื่อรองว่า “กวนหวินฉาง(关云长)” เกิดเมื่อวันที่ 24 เดือน 6 จีนศักราชเอี่ยงฮี ปี พ.ศ. 703 ในรัชสมัยของพระเจ้าฮั้นฮวนเต้ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 เดือนที่ 7 จีนศักราชเคี่ยงเซ้ง ปี พ.ศ. 762 ในรัชสมัยของพระเจ้าฮั่นเหี้ยนเต้ เป็นชาวอำเภอไก่เหลียง ลักษณะตามคำบรรยายในวรรณกรรมสามก๊ก กวนอูเป็นผู้มีรูปร่างสูงใหญ่ 9 ฟุตจีนหรือประมาณ 6 ศอก ใบหน้าแดงเหมือนผลพุทราสุก นัยน์ตายาวรี คิ้วดั่งหนอนไหม หนวดเครางามถึงอกมีง้าวรูปจันทร์เสี้ยว ยาว 11 ศอก หนัก 82 ชั่ง เป็นอาวุธประจำกายเรียกว่า "ง้าวมังกรเขียว" หรือ "ง้าวมังกรจันทร์ฉงาย" เชี่ยวชาญและเก่งกาจวิทยายุทธ จงรักภักดี กตัญญูรู้คุณ มีคุณธรรมและซื่อสัตย์เป็นเลิศ
กวนอูได้เข้าร่วมสัตย์สาบานเป็นพี่น้องกับเล่าปี่และเตียวฮุย จากนั้นมา ก็ได้ออกสู้รบทำศึกด้วยความห้าวหาญ และมีส่วนช่วยให้เล่าปี่ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งก๊กสู่ (จ๊กก๊ก) วีรกรรมต่าง ๆ ในสมัยสามก๊กของกวนอูเป็นที่เล่าขานสืบทอดต่อ ๆ กันมาหลายชั่วอายุคน สร้างความประทับใจให้แก่ชาวจีนอย่างลึกซึ้ง ดังนั้น เมื่อภาพลักษณ์แห่งกวนอูได้สะท้อนผ่านงานทางด้านศิลปะทั้งจิตรกรรมและ ประติมากรรมจึงมักปรากฏรูปของกวนอูในบุคลิกของขุนศึกผู้เหี้ยมหาญและซื่อ สัตย์ ส่วนใหญ่แล้วจะสร้างกวนอูมีใบหน้าสีแดง หนวดเครายาวจรดอก สวมอาภรณ์สีเขียว มีใบหน้าที่กล้าหาญและดุดัน
ภาพ แห่งกวนอูในฐานะของเทพเจ้าแห่งสงคราม จึงเป็นสัญลักษณ์สิริมงคลในความหมายของการต่อสู้ชิงชัย และมักสวมชุดเกราะห้ามังกรพร้อมง้าวมังกรเขียวงานศิลปหัตถกรรมเกี่ยวกับกวน อูจึงมีรูปแบบและลักษณะที่ไม่เหมือนกัน และได้รับการกราบไหว้บูชาในความหมายที่แตกต่างกันไปด้วย คือ
“ลี่กวนกง(立关公)” หรือ “กวนอูยืน” เป็นคำเรียกรูปเคารพกวนอูในท่ายืน สองตาเขม็งเพ่งมองไปเบื้องหน้า มือขวามักจะถือง้าวมังกรเขียวไว้ข้างกาย มีท่วงท่าที่องอาจงามสง่าพร้อมออกศึก นับเป็นรูปเคารพกวนอูที่พบเห็นกันมากที่สุด และได้รับการประดับบูชาไว้ตามอาคารบ้านเรือนและบริษัทสำนักงานปกติแล้วจะ ต้องวางรูปกวนอูยืนในตำแหน่งที่หันหน้าออกหน้าบ้าน แต่จะไม่วางไว้ตรงหน้าประตูทางเข้า โดยจะวางไว้บริเวณภายในบ้านแล้วค่อยหันหน้าออกสู่ด้านนอก เชื่อกันว่า จะช่วยขับไล่สิ่งชัวร้ายนานาและภัยอุปสรรคทั้งมวลให้ผ่านพ้นไป เพราะหากมีสิ่งชั่วร้ายใด ๆ เข้ามาสู่ประตูบ้านแล้ว เมื่อเห็นรูปกวนอูยืนอยู่ด้านใน ก็จะหลีกลี้หนีไปไกลแสนไกล
“ฉีหม่ากวนกง(骑马关公)” หรือ “กวนอูขี่ม้า” เป็นรูปกวนอูในท่าควบขับบนหลังม้าที่กำลังโผนโจนทะยาน เป็นท่วงท่าก่อนออกทำศึกสงคราม ดังนั้น การวางรูปเคารพกวนอูในแบบลักษณะนี้ จะเท่ากับการประกาศศึกกับศัตรู ปกติแล้วนิยมตั้งรูปกวนอูในท่าควบขับบนหลังม้าเพื่อสะท้อนถึงความหมายของการ ต่อสู้แข่งขันทางธุรกิจการค้า หากตั้งประดับไว้ก็จะประสบชัยชนะเหนือคู่แข่งทั้งปวง
“กวนกงเย่ตู๋ (关公夜读)” หรือ “กวนอูอ่านตำรายามราตรี” เป็นรูปกวนอูในท่าอ่านตำรา มือหนึ่งถือตำราหนังสือม้วนพับไว้อีกมือหนึ่งจะลูบเคราในลักษณะท่วงท่าสมาธิ ระหว่างการอ่านตำรา ดังนั้น การวางรูปเคารพกวนอูในลักษณะแบบนี้ จะเป็นเคล็ดในความเชื่อว่า หากตั้งไว้ ณ ตำแหน่งของการศึกษาตามหลักฮวงจุ้ยแล้วก็จะทำให้ประสบชัยชนะในการศึกษาเล่า เรียนและสามารถสอบแข่งขันเข้ารับราชการได้ดั่งใจปรารถนา ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าเวลาจะพ้นผ่านไปนานนับร้อยนับพันปี ความเชื่อความศรัทธาในเทพเจ้ากวนอูที่มีฐานะเสมือนหนึ่ง “เทพแห่งความซื่อสัตย์” “เทพเจ้าแห่งโชคลาภ” และ “เทพแห่งสงคราม” จึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์สิริมงคลที่หยั่งรากฝังลึกอยู่ในคติความเชื่อของชาว จีนมาทุกยุคทุกสมัย และเป็นที่สักการบูชามาตราบจนปัจจุบัน
องค์รักษ์ประจำกายเจ้าพ่อกวนอู
องค์รักษ์ซ้าย ชื่อ เทพเจ้ากวนเป่ง
องค์รักษ์ขวาชื่อ เทพเจ้าจิวฉอง
จิวฉอง (โจวชาง 周倉 Zhou Cang) เป็นชาวเมืองกวนซี รูปร่างสูงใหญ่ หน้าดำ หนวดเคราหงิกงอ มีพละกำลังมากสามารถยกของได้ถึงพันชั่ง ใช้ทวนเป็นอาวุธ เป็นทหารคนสนิทของกวนอู (กวนอวี่) มักติดตามเป็นองครักษ์ข้างกายของกวนอูและคอยถือง้าวมังกรเขียวหนัก 82 ชั่งของกวนอู
"เทพเจ้ากวนอู" เป็นเทพสัญลักษณ์แห่งความซื่อสัตย์ ความกตัญญูรู้คุณ ความจงรักภักดี และความกล้าหาญ การเคารพสักการะเทพเจ้ากวนอูนั้น เป็นประเพณีที่นิยมทำกันมาหลายพันปีแล้ว ซึ่งคติความเชื่อก็แตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น ซึ่งปกติไม่ได้มีข้อกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด แต่ส่วนมากมักจะสักการะท่านด้วยน้ำชา สุรา รวมทั้งอาหารคาวหวานและผลไม้
ผู้ที่เลื่อมใส ศรัทธาสามารถเช่าเหรียญเทพเจ้ากวนอู ไปบูชาแล้วท่านจะได้พบกับปาฎิหารย์ที่ดีๆเกิดขึ้นกับชีวิตของท่านอย่างแน่นอนค่ะ “ศรัทธามี ปาฎิหารย์ย่อมเกิดอย่างแน่นอนค่ะ”
www.Luxuryhruhra.com ขอขอบพระคุณที่มาจากวิกีพีเดียค่ะ
รายละเอียดในการรับประกันพระ
ทางร้านรับประกันพระแท้ " ตามหลักมาตรฐานสากล " ของวงการพระเครื่อง
ในระยะเวลา 7 วัน หลังจากท่านได้รับพระหรือวัตถุมงคลจากทางร้าน
หากเก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนโดยไม่หักเปอร์เซ็นต์ใดๆ ทั้งสิ้น
หมายเหตุ สำคัญค่ะ
( ถ้าเกินระยะเวลา 7 วัน หลังจากได้รับสินค้าแล้ว ทางร้านไม่รับคืน ทุกกรณีค่ะ)
กรณีที่ต้องการคืนพระ ต้องผ่านการตรวจสอบ เงื่อนไขมีดังนี้
ส่งพระเข้าตรวจสอบกับทางสมาคมพระเครื่อง หรือ เว็บไซส์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับ และออกใบรับรองอย่างชัดเจน
( โดยชี้ชัดว่า "เก๊" ทางร้านยินดีคืนเงินให้ทันที และจะออกค่าใช้จ่ายในส่วนการตรวจสอบคืนให้ด้วยค่ะ )
ทางร้านจะไม่ยอมรับการตัดสินจากบุคคลใดๆ ทั้งสิ้นที่อ้างตัวเป็นผู้รู้ และ ไม่มีเอกสารการตรวจสอบชัดเจน
จะยอมรับเฉพาะกรณีที่แจ้งไว้ข้างต้นเท่านั้น
โดยวัตถุมงคลจะต้องอยู่ในสภาพเดิมเหมือนดังในรูป ไม่ล้างผิว ชำรุดหักบิ่น และเสียสภาพจากเดิม
หน้าที่เข้าชม | 2,390,411 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,755,420 ครั้ง |
เปิดร้าน | 12 ก.พ. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 9 ก.ย. 2568 |