เหรียญเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรีปี2538เนื้อกะไหล่ทอง

เหรียญเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรีปี2538เนื้อกะไหล่ทอง
เหรียญเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรีปี2538เนื้อกะไหล่ทองเหรียญเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรีปี2538เนื้อกะไหล่ทองเหรียญเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรีปี2538เนื้อกะไหล่ทองเหรียญเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรีปี2538เนื้อกะไหล่ทอง
รหัสสินค้า SKU-03488
หมวดหมู่ พระจังหวัดสุพรรณบุรี
ราคา 299.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
อัพเดทล่าสุด 13 มี.ค. 2568
จำนวน
ชิ้น
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
การสั่งซื้อสินค้าจากทางร้าน  

cool  สินค้าราคา 50-299 บาท   มีค่าจัดส่งสินค้าแบบEMS เพิ่ม 30-60 บาทค่ะ (แล้วแต่เขตพื้นที่ค่ะ)

smile บูชาสินค้าจากทางร้านราคารวม 300 บาทขึ้นไป ทางร้านจัดส่งสินค้าฟรีแบบด่วน EMS ค่ะ


laughing ไม่มีบริการจัดส่งแบบเก็บเงินปลายทาง ต้องขออภัยด้วยนะคะ

หมายเหตุ : ทางร้านได้ลงทะเบียน DBD อย่างถูกต้องตามกฏหมาย
smile คุณลูกค้าสบายใจได้ ได้รับสินค้าอย่างแน่นอนค่ะ
รายละเอียดสินค้าเหรียญเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรีปี2538เนื้อกะไหล่ทอง
สี ทอง
ขนาดความกว้าง 2.1 เซนติเมตร
ขนาดความยาว,สูง  3.4  เซนติเมตร

สินค้านี้ราคา  299 บาท  

เจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี

                 เจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรีเป็นเทวรูปขอมสมัยไพรกเมง อายุในราว พ.ศ.1185-1250 (ประติมากรรมขอม ศาสตราจารย์ ม.จ.สุภัทรดิศ ดิศกุล หน้า 1) สมัยก่อนสร้างเมืองพระนคร (PRE ANGKORIA PERIOD) เพราะพระเศียรสวมหมวกทรงกระบอกหรือหมวกแขก

                 ชาวบ้านเล่ากันว่า ?เจ้าพ่อหลักเมือง? ลอยน้ำมา แล้วมาติดค้างอยู่ที่ชายตลิ่ง มีคนมาเห็นเข้าพยายามชักลากขึ้นจากน้ำก็ไม่ยอมขึ้น ต้องทำพิธีบวงสรวงจึงอัญเชิญขึ้นมาได้ เห็นว่าเป็นอัศจรรย์และเป็นอภินิหารจึงสร้างศาลขึ้นให้เป็นที่ประดิษฐาน และทำการเคารพบูชากันเรื่อยมา ศาลที่สร้างครั้งแรกคงเป็นศาลไม้เล็กๆ พอประดิษฐานได้เท่านั้น ผู้พบและผู้สร้างน่าจะเป็นคนจีน เพราะอาณาบริเวณนั้นมีคนจีนมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ทำไร่ผัก จากการสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ว่าพบมานานแล้ว คำนวณว่าไม่น้อยกว่า 150 ปี

                เมื่อราว 50-60 ปี (ระหว่าง พ.ศ.2475-2485) อาณาบริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองมีต้นไม้ขึ้นรกรุงรัง เป็นสุมทุมพุ่มไม้ ทางเข้าศาลรกทึบ ค่อนข้างเปลี่ยวไม่ค่อยมีผู้คนสัญจรไปมา เป็นทางคนเดินแคบๆ เวลาเดินสวนทางกัน ต้องเลี่ยงออกสองข้างทางทั้งคู่ ชาวตลาดจังหวัดสุพรรณบุรีไปนมัสการต้องเดินไปสุดถนนนางพิม เลี้ยวขวาผ่านต้นสะตือซึ่งอยู่ริมน้ำและต้นจามจุรีอีกในราว 100 เมตร ข้ามเรือจ้างไปขึ้นท่าวัดประตูสาร

                มีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อในราว 80 ปีมาแล้ว ใครจะข้ามเรือจ้างไม่มีสตางค์ให้ค่าข้าม เอาพระผงสุพรรณบุรีองค์หนึ่งให้เป็นค่าข้ามเรือจ้าง ซึ่งมีมูลค่าเพียง 1 สตางค์แดงเท่านั้น เมื่อข้ามไปฝั่งวัดประตูสารแล้วเดินไปออกหลังตลาดวัดประตูสารซึ่งเป็นทางเดินขรุขระ ถ้าเป็นฤดูฝนทางเดินเฉอะแฉะเต็มไปด้วยโคลนตม

                ตรุษจีน สารทจีน ชาวตลาดจังหวัดสุพรรณบุรีไปสักการะเจ้าพ่อหลักเมืองกันเนืองแน่น พวกมิจฉาชีพคอยถือโอกาสฉกชิงวิ่งราว กระชากสร้อยคอคนที่ไปไหว้เจ้าอยู่เนืองๆ จนเป็นที่หวาดหวั่นแก่คนที่จะไปไหว้เจ้า

                ฤดูน้ำเหนือหลาก น้ำท่วมทุ่งนา นาข้าวเจิ่งนองไปด้วยน้ำ ตัวศาลประดิษฐานอยู่บนเนินสูงน้ำไม่ท่วม บางปีน้ำมากเอ่อล้นเข้ามาท่วมชานด้านหน้า ชาวตลาดสมัยโน้นพายเรือไปเที่ยวศาลเจ้าพ่อเวลาตอนบ่าย-เย็น เป็นเสมือนจุดนัดพบ โดยเอาเรือเล็กเข้าทางด้านหน้าวัดประตูสาร ลัดเลาะไปตามเพนียดคล้องช้างโบราณ ผ่านสุมทุมพุ่มไม้ขึ้นเต็มเพนียดทั้งสองข้างจนทะลุถึงศาลเจ้าพ่อ สมัยโน้นเราไม่รู้หรอกว่าทางน้ำที่เราผ่านไปนั้นเป็นเพนียดคล้องช้างสมัยโบราณ เพิ่งมารู้เอาเมื่อไม่กี่มานี่เอง

                หน้าศาลเจ้าพ่อมีสะพานไม้ข้ามคลองจากฝั่งนี้ไปฝั่งโน้น เด็กๆ กระโดดน้ำเล่นกันบนสะพานสนุกสนาน เรือบางลำเอาข้าวไปรับประทานกัน เรียกกันว่า ?กินข้าวทุ่ง? สมัยก่อนเป็นที่นิยมกัน พอถึงฤดูน้ำเหนือหลากเต็มท้องทุ่ง ชาวเมืองพายเรือไปเที่ยวตามทุ่งนาเอาข้าวไปรับประทานกันเป็นที่สำราญบานใจ ผู้เขียนกำลังหนุ่มก็ไปสนุกกับเขาทั้งที่ศาลเจ้าพ่อและเป็นเที่ยวตามทุ่งนา ปัจจุบันบรรยากาศดังกล่าวไม่มีแล้ว

เจ้าพ่อหลักเมือง

เป็นพุทธปฎิมากรรมสลักบนแผ่นหินแบบนูนต่ำ (Relief) ในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ซึ่งเป็นศาสนาที่ชาวจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ทิเบต ญวน เขมร นับถือ เป็นศิลปะแบบขอมเป็นรูปพระวิษณุกรรมสวมหมวกแขก ในศิลปะไพรกเม็ง อายุประมาณ 1300-1400 ปีมาแล้ว มีพระนามว่าพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือ พระนารายณ์สี่กร มีหน้าที่ช่วยเหลือมนุษย์ และเหล่าสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ ประสพแต่ความสุขความเจริญ เช่นเดียวกับพระโพธิสัตว์ เจ้าแม่กวนอิม ตามคำบอกเล่าต่อๆกันมา เมื่อประมาณ 150 ปีมาแล้ว มีผู้พบพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร จมดินอยู่ตรงริมศาลเจ้าพ่อ ชาวบ้านจึงช่วยกันอัญเชิญขึ้นข้างบน พร้อมกับสร้างศาลใหม่ให้เป็นที่ประทับ

มีคนจีนชื่อ เฮียกงเป็นผู้ดูแลรักษาเรื่อยมา

เมื่อครั้งโบราณมีคำกล่าวว่า " ห้ามเจ้าไปเมืองสุพรรณจะทำให้มีอันเป็นไป "

                เมื่อ พ.ศ. 2435 สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จตรวจราชการเมืองสุพรรณ ได้ทรงสักการะเจ้าพ่อหลักเมือง ได้ประทานทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างศาลเพิ่มขึ้น พร้อมวางแผนให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเมืองสุพรรณ

                พระพุทธเจ้าหลวงทรงพระดำรัสว่า "เข้าทีดีหนักหนา แต่เขาไม่ให้เจ้าไปเมืองสุพรรณ ว่าถ้าขืนไปจะเป็นบ้าไม่ใช่หรือ" สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพจึงกราบบังคมทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าไปมาแล้วไม่เห็นเป็นอะไร ยังรับราชการมาจนบัดนี้ พระพุทธเจ้าหลวงทรงตรัสสั้นๆว่า "ไปซิ" จากนั้นพระองค์จึงเสด็จมาเมืองสุพรรณ ในคราวเสด็จประพาสต้นเมื่อ พ.ศ. 2447 และทรงกระทำพลีกรรมเจ้าพ่อหลักเมือง และพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ก่อสร้างเขื่อนรอบเนินศาล ทำชานไว้สำหรับคนที่บูชา สร้างกำแพงแก้ว ต่อตัวศาลเพิ่มเติมออกมา ข้างหน้าเป็นแบบเก๋งจีน โดยทั่วไปศาลหลักเมืองนั้นจะทำด้วยไม้ บนยอดจะเป็นหัวเม็ด

                แต่หลักเมืองของ สุพรรณนี้พิเศษกว่าหลักเมืองทั่วไปคือ จะเป็นหินและมีพุทธปฎิมากรอยู่ด้วย

 

ราว พ.ศ.2505 ถนนมาลัยแมนตัดมาจากนครปฐม ผ่านอำเภออู่ทอง มาบ้านรั้วใหญ่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี เฉือนเพนียดคล้องช้างหายไปครึ่งหนึ่ง สร้างสะพานข้ามแม่น้ำสุพรรณเชิงเจดีย์กุฎีสงฆ์ ศิลปากรก็ไม่ทราบ เมื่อ 20 กว่าปียังมีร่องรอยอยู่บ้าง ไม่ทราบว่าปัจจุบันยังมีร่องรอยของเพนียดอยู่หรือเปล่า เพราะอาณาบริเวณนี้เป็นที่ของกรมการศาสนาอยู่ในความปกครองของทางราชการ ให้ประชาชนเช่าปลูกเคหะสถานหมด แม้แต่พุทธสถานซึ่งเป็นองค์เจดีย์โบราณ กรมการศาสนาอนุญาตให้ประชาชนเช่าที่ดินปลูกอาคารเบียดชิดกับองค์เจดีย์ ด้วยเหตุดังกล่าวทางเข้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองทางน้ำจึงถูกตัดขาดโดยปริยาย พูดถึงความจำเป็นปัจจุบันไม่มี เพราะการสัญจรไปมาทางบกสะดวกกว่ากันมาก อีกประการหนึ่งน้ำในแม่น้ำก็ไม่มากเหมือนสมัยเมื่อ 50-60 ปีก่อน พอถึงฤดูน้ำๆ นองมาจริงๆ ปัจจุบันน้ำในแม่น้ำไม่มีเช่นแต่ก่อน

                ตั้งแต่เริ่มมีเขื่อนภูมิพล (เขื่อนยันฮี) เพราะจะต้องกระจายน้ำเข้าทุ่งไปทุกๆ จังหวัดเพื่อปลูกข้าว คณะกรรมการดูแลและจัดผลประโยชน์ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเป็นชาวจีนมาตั้งแต่เริ่มแรก สืบติดต่อกันมาร้อยกว่าปี ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของทางราชการ มาปัจจุบันเป็นกรรมการชาวไทยเชื้อสายจีน โดยมี นายบรรหาร ศิลปอาชา ส.ส.จังหวัดสุพรรณบุรีเป็นประธานกรรมการ ตั้งแต่ครั้งยังดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคชาติไทย ปีหนึ่งๆ คณะกรรมการจัดให้มีพิธีบวงสรวงเจ้าพ่อหลักเมือง โดยจัดเป็นงานนักขัตฤกษ์ประจำปีใหญ่โตมโหฬารในบริเวณตัวตลาดจังหวัดสุพรรณบุรี เรียกว่า ?งานทิ้งกระจาด? ระหว่างกลางเดือน 7 ของจีน ตรงกับเดือน 9 ของไทยทางจันทรคติ หรือในระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน ทางสุริยคติ ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวจีนมาสักการะเจ้าพ่อหลักเมืองกันอย่างคับคั่ง แต่ก่อนจัดงาน 3 วัน 3 คืน

                ต่อมาเพิ่มเป็น 5 วัน 5 คืน มีงิ้วแต้จิ๋วสมโภช 2 โรง งิ้วไหหลำ 1 โรง และลิเก 1 โรง มีร้านค้าจากต่างจังหวัดมาออกร้านขายของไม่น้อยกว่าร้อยร้าน ทำให้ตัวตลาดจังหวัดสุพรรณบุรีแออัดไปด้วยผู้คนที่มาเที่ยวเตร่ในงาน แม้สงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้นทางราชการให้ทุกๆ บ้านพรางแสงด้วยใช้ผ้าฝ้ายย้อมสีน้ำเงินหุ้มตะเกียง ซึ่งเรียกกันว่า ?ผ้ามาตรฐาน? แต่งานทิ้งกระจาดของจังหวัดสุพรรณบุรีก็หาได้งดไม่ จัดต่อต่อกันทุกๆ ปี ความจริงงานทิ้งกระจาดของจังหวัดอยุธยา และดูเหมือนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีก็มี แต่เป็นงานไม่ใหญ่เท่างานที่จังหวัดสุพรรณ

วิธีการสั่งซื้อสินค้า

ขั้นตอนที่ 1
เลือกสินค้าที่คุณต้องการ โดยคลิกปุ่มสั่งซื้อ / หยิบลงตะกร้า
ขั้นตอนที่2
เมื่อเลือกสินค้าครบแล้ว ให้คลิกปุ่มสั่งซื้อสินค้าในตะกร้าสินค้า
ขั้นตอนที่ 3
กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน จากนั้นคลิกปุ่มยืนยันการสั่งซื้อ
ขั้นตอนที่ 4
ชำระค่าสินค้าและบริการ สามารถดู วิธีการชำระเงินได้ที่นี่
ขั้นตอนที่ 5
แจ้งการชำระเงินผ่านทางหน้าเว็บไซต์ แจ้งชำระเงิน
ขั้นตอนที่ 6
เมื่อทางร้านตรวจสอบรายการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว จะจัดส่งสินค้าให้คุณทันที

วิธีการชำระเงิน

ถ้าสินค้ามีราคา 0.00 บาท แสดงว่าสินค้าไม่พร้อมส่ง หรือ ไม่มีสินค้าค่ะ
บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนวชิรปราการ ออมทรัพย์

นโยบายการเปลี่ยนหรือคืนสินค้า

รายละเอียดในการรับประกันพระ

 ทางร้านรับประกันพระแท้  " ตามหลักมาตรฐานสากล "  ของวงการพระเครื่อง
ในระยะเวลา 7
 วัน หลังจากท่านได้รับพระหรือวัตถุมงคลจากทางร้าน
หากเก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนโดยไม่หักเปอร์เซ็นต์ใดๆ ทั้งสิ้น

หมายเหตุ สำคัญค่ะ
 ( ถ้าเกินระยะเวลา 7 วัน หลังจากได้รับสินค้าแล้ว ทางร้านไม่รับคืน ทุกกรณีค่ะ)

กรณีที่ต้องการคืนพระ ต้องผ่านการตรวจสอบ เงื่อนไขมีดังนี้

ส่งพระเข้าตรวจสอบกับทางสมาคมพระเครื่อง หรือ เว็บไซส์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับ และออกใบรับรองอย่างชัดเจน

( โดยชี้ชัดว่า "เก๊" ทางร้านยินดีคืนเงินให้ทันที และจะออกค่าใช้จ่ายในส่วนการตรวจสอบคืนให้ด้วยค่ะ )

ทางร้านจะไม่ยอมรับการตัดสินจากบุคคลใดๆ ทั้งสิ้นที่อ้างตัวเป็นผู้รู้ และ ไม่มีเอกสารการตรวจสอบชัดเจน

จะยอมรับเฉพาะกรณีที่แจ้งไว้ข้างต้นเท่านั้น

 โดยวัตถุมงคลจะต้องอยู่ในสภาพเดิมเหมือนดังในรูป ไม่ล้างผิว ชำรุดหักบิ่น และเสียสภาพจากเดิม

ยินดีต้อนรับค่ะ

เหรียญหรือรูปปั้นองค์เทพเจ้าจีนบูชาให้ร่ำรวย [7335]

หรูหราพระเครื่อง

หน้าที่เข้าชม2,390,305 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด1,755,314 ครั้ง
เปิดร้าน12 ก.พ. 2560
ร้านค้าอัพเดท8 ก.ย. 2568

ติดตามพัสดุ

*ใส่ เบอร์มือถือ หรือ email ที่ใช้ในการสั่งซื้อ

ติดต่อเรา

0926462958

Join เป็นสมาชิกร้านค้า

ร้านพระเครื่องยอดนิยมทั้งไทยและจีนของมงคลเสริมดวงให้ร่ำรวย
ร้านพระเครื่องยอดนิยมทั้งไทยและจีนของมงคลเสริมดวงให้ร่ำรวย
/www.xn--42cg1etaabb2dbz4av4eta5i0f.com/
Join เป็นสมาชิกร้าน
69
สมัครสมาชิกร้านนี้ เพื่อรับสิทธิพิเศษ

มีดหมอหลวงพ่อฤาษีลิงดำรุ่น1

www.Luxuryhruhra.com

พระโพธิสัตว์ตารา

เหรียญเต๋าบ้อ

รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านพระเครื่องยอดนิยมทั้งไทยและจีนของมงคลเสริมดวงให้ร่ำรวย
พระเครื่องยอดนิยมทั้งไทยและจีนของมงคลเสริมดวงให้ร่ำรวย
พระเครื่องยอดนิยมทั้งจีนและไทย เหรียญเทพเจ้าจีนเจ้าแม่กวนอิม เจ้าพ่อกวนอู พระสังกัจจายน์บูชาแล้วร่ำรวยเสริมดวงชะตา วัตถุมงคลเสริมฮวงจุ้ย
เบอร์โทร : 0926462958
อีเมล : hraluxury@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม