เหรียญพระบรมศาสดาศากยมุนีพระพุทธเจ้าด้านหลังพระอาจารย์ตั้กฮี้วัดเทพพุทธารามเซียนฮุดยี่เนื้อทองแดง

รายละเอียดสินค้าเหรียญพระบรมศาสดาศากยมุนีพระพุทธเจ้าด้านหลังพระอาจารย์ตั้กฮี้วัดเทพพุทธารามเซียนฮุดยี่เนื้อทองแดง
 
ขนาดความกว้าง  2.5 เซนติเมตร
ขนาดความยาว,สูง  3.5 เซนติเมตร
สินค้านี้เป็นพระเก่าเก็บ ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน อาจมีคราบสนิม ความเก่าที่เกิดตามกาลเวลา
พิจารณาได้ตามรูปค่ะ

สินค้านี้ราคา 399 บาท  
สนใจสินค้า สามารถสั่งซื้อได้ที่หน้าเว็ป หรือแอดไลน์ มาได้ที่ hra7215 ค่ะ
ขอบพระคุณมากค่ะ

ประวัติพระอาจารย์ตั๊กฮี้ ปฐมเจ้าอาวาสวัดเทพพุทธาราม

พระอาจารย์ตั๊กฮี้ เกิดในสกุลลี้ ท่านเกิดเมื่อขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๑๒ ทางจันทรคติจีน ปีฉลู พ.ศ. ๒๔๒๐ เป็นชาวหมู่บ้านกัวเส็กเฮีย ตําบล บ่วยกังโตว อําเภอกิ๊กเอี้ย มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ประกอบกสิกรรม สกุลของท่านมีอัธยาศัยใฝ่ทางสร้างบุญกุศล ท่านถือมังสวิรัติชอบสวดมนต์ไหว้พระ นิยมสร้างกุศลสิ่งสาธารณประโยชน์  ในปลายราชวงศ์ชิง ท่านได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทย ปฏิบัติศึกษาธรรมตามลัทธิเต๋า จนได้รับตําแหน่งหัวหน้าคณะ ท่านได้ศึกษาค้นคว้า ทางพระพุทธศาสนามหายาน ประจักษ์ในธรรมแห่งพระตถาคต สละซึ่งพรตเดิม ตั้งปณิธานออกบวช 

ในปี พ.ศ. ๒๔๕๑ ท่านมีอายุได้ ๓๖ ปี ได้บรรพชาอุปสมบท เพื่อเล่าเรียนในสํานักพระอาจารย์จีนวังสสมาธิวัตร (กวยหงอ) เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่จีนนิกายในสมัยนั้น

ญาติพี่น้องในเมืองไทยของท่านทราบว่าท่านได้ออกบรรพชาอุปสมบท จึงได้ส่งข่าวให้ภรรยาของท่านที่เมืองจีนทราบ เมื่อภรรยาของท่านทราบข่าว จึงได้เดินทางมาเมืองไทยเพื่ออาราธนาท่านกลับสู่มาตุภูมิ

ครั้นต่อมาท่านได้เดินทางกลับสู่ประเทศไทย เพื่อบําเพ็ญสมณธรรม พระอาจารย์กวยหงอเห็นความเคร่งครัดของท่าน จึงได้มอบหมายให้ท่าน เป็นผู้แสดงธรรมแก่สาธุชนทั้งชาวไทย-ชาวจีน ประจํา ณ สํานักเต็กฮวยตึ้ง จังหวัดเพชรบุรี

ต่อมาพระอาจารย์ตั๊กฮี้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดจีนประชา สโมสร (เล่งฮกยี่) และนับเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ ๓ ของวัดแห่งนี้ ท่าน ได้รับศิษยานุศิษย์เพื่อบรรพชา ศิษยานุศิษย์รูปสำคัญ พระอาจารย์เซี่ยงหงี ต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระอาจารย์จีนวังสสมาธิวัตร เจ้าคณะใหญ่จีนนิกายรูปที่ ๕ พระอาจารย์เซี่ยงกี เจ้าสำนักถ้ำประทุน (เช็งจุ้ยยี่ จ.สระบุรี) พระอาจารย์เซี่ยงซิว พระอาจารย์เซี่ยงกุ่ย

พระอาจารย์ตั๊กฮี้ ได้ปกครองวัดอยู่ระยะหนึ่ง จึงออกจาริกแสดงธรรมโปรด ชาวพุทธตามจังหวัดต่าง ๆ

ก่อนปี พ.ศ. ๒๔๗๐ เมื่อท่านเดินทางจาริกมาถึงจังหวัดชลบุรี พุทธศาสนิกชนต่างพากันเลื่อมใสปฏิปทาของท่าน มีทายกทายิกา ได้ถวายที่ดิน เช่น นายเผือด, นายถมยา, นางถั่ว เป็นต้น เพื่อสร้างวัดถวายแด่ท่านจําพรรษา และตั้งชื่ออารามแห่งนี้ในภาษาจีนว่า “วัดเซียงฮุกยี่” และชื่อภาษาไทยว่า “วัดเทพพุทธาราม” เพื่อเป็นอนุสรณ์ว่า เดิมก่อนที่ท่านจะอุปสมบทได้ถือพรตลัทธิเต๋า ซึ่งมีอุดมคติเพียงสําเร็จเป็นเซียนหรือเทพเจ้า และต่อมาท่านได้บรรพชา อุปสมบทในพระพุทธศาสนา ซึ่งมีอุดมคติสําเร็จพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ท่านจึงนําคำสนธิได้ว่า “เซียงฮุกยี่ เทพพุทธาราม" ตามบันทึก แผ่นป้ายไม้แกะสลักในวิหารพระรัตนตรัย โดยมหาอํามาตย์ตรีพระยา พิพัฒนธนากร

ท่านมีเมตตากรุณาต่อคนยากจนเข็ญใจไร้ที่พึ่ง อนุเคราะห์ให้ได้รับความสุข บ้างเจ็บไข้ ท่านช่วยส่งไปรักษาตามโรงพยาบาลให้หาย คนเหล่านี้บ้างได้ออกบวช บ้างถวายตัวเป็นศิษย์อุปัฏฐากรับใช้ ท่านได้ตรากตรําบําเพ็ญศาสนกิจในพระพุทธศาสนาโดยมิเห็นแก่ความเหนื่อยยาก ต่อมาท่านอาพาธด้วยโรคชรา บรรดาศิษย์จึงอารถนาให้ท่านไปพักรักษาตัวอยู่ ณ วัดจีนประชาสโมสร (เล่งฮกยี่) จังหวัดฉะเชิงเทรา จนเมื่อวันขึ้น ๒ ค่ำ เดือนยี่จีน ปีชวด พ.ศ. ๒๔๗๙ ยามเบ้า (ประมาณ ๐๕.๐๐-๐๗.๐๐ น.) ท่านกําหนดรู้เวลาดับขันธ์ของตน และได้ลุกขึ้นนั่งคู้บัลลังก์เข้าสมาบัติ กระทํากาลกิริยาลงด้วยอาการสงบ รวมสิริอายุได้ ๖๐ ปี ๒๓ พรรษา

ด้วยอานุภาพของสมาธิพละที่อบรมปฏิบัติมา สรีระของท่านจึงมิได้ เน่าเปื่อย เป็นที่สักการบูชาของบรรดาศิษยานุศิษย์ พุทธศาสนิกชนไทย-จีน จวบจนปัจจุบัน

www.Luxuryhruhra.com ขอขอบพระคุณที่มาจาก วัดเทพพุทธาราม วัดเทพพุทธาราม 仙佛禪寺

จ.ชลบุรี มา ณ ที่นี้ค่ะ