รหัสสินค้า | SKU-05411 |
หมวดหมู่ | 19.เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว |
ราคา | 299.00 บาท |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
อัพเดทล่าสุด | 9 ก.พ. 2568 |
จำนวน | ชิ้น |
ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว มีชื่อเป็นทางการว่า “ศาลเจ้าเล่งจูเกียง” เป็นศาลเจ้าเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของเมืองปัตตานีมาแต่โบราณ มี เจ้า องค์ประธานคือ โจวซือกง ซึ่งเป็นอริยะสงฆ์ ในพระพุทธศาสนา ตามหลักฐานที่จารึกอยู่ในศาลเจ้า ตั้งขึ้นเมื่อวันชัยมงคล ปีบวนเละ ที่ ๒ ศักราชราชวงศ์หมิง ตรงกับพุทธศักราช ๒๑๑๗ ในรัชสมัยของสมเด็จพระมหาธรรมราชา แห่งกรุงศรีอยุธยา
ตำนาน เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เล่าว่า เจ้าแม่เกิดในตระกูล “ลิ้ม” มีชื่อว่า “กอเหนี่ยว” อยู่ในมณฑลฮกเกี้ยน เป็นน้องสาวของ “ลิ้มเต้าเคียน” หรือ “ลิ้มโต๊ะเคี่ยม” ทั้งสองร่วมเรียนรู้ศิลปะวิทยาการต่างๆ จนแตกฉาน ฝ่ายพี่ชายเมื่อโตขึ้นก็ได้เข้ารับราชการ สร้างผลงานได้รับแต่งตั้งเป็นนายทหารคุมกองเรือ
แต่ต่อมาเกิดมีปัญหาบางประการ ลิ่มโต๊ะเคี่ยมกลับต้องหนีออกไปใช้ชีวิตเร่ร่อนในทะเล เดินทางไปไปยังเกาะต่างๆ ล่องลงมาทางทะเลใต้ จนกระทั่งได้มาตั้งรกรากและได้ภรรยาอยู่ที่เมืองปัตตานี ซึ่ง ณ ที่นี้ ลิ่มโต๊ะเคี่ยม ได้เปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลาม และมีฐานะดีขึ้น
ฝ่าย ลิ้มกอเหนี่ยว ผู้เป็นน้องสาว เมื่อเห็นว่าพี่ชายขาดการติดต่อ ไม่ได้ส่งข่าวคราวนานจนมารดาวัยชราล้มป่วย ด้วยความกตัญญูจึงอาสาออกเดินทางไปตามพี่ชายให้กลับบ้าน ก่อนเดินทางได้กล่าวคำสัตย์สาบานว่า “หากตามพี่ชายกลับมาบ้านไม่ได้ ก็จะไม่ขอมีชีวิตอยู่อีกต่อไป”
แล้วลิ้มกอเหนี่ยว กับญาติก็นำเรือออกทะเลเป็นเวลาหลายเดือน กระทั่งได้ข่าวว่าลิ่มโต๊ะเคี่ยมไปอยู่ที่เมืองปัตตานีจึงติดตามไปถึงเมือง จอดเรือทอดสมอไว้ แล้วลิ้มกอเหนี่ยวจึงขึ้นฝั่งไปเจรจากับพี่ชาย หากแต่ ลิ้มโต๊ะเคี่ยม ยังกลับไม่ได้ด้วยได้รับมอบหมายจากเจ้าเมืองปัตตานีให้สร้างมัสยิด และยังสร้างไม่เสร็จ (หมายถึง มัสยิดกรือเซะ) ลิ้มกอเหนี่ยว จึงพำนักรออยู่ในปัตตานีก่อน และเฝ้าอ้อนวอนให้พี่ชายกลับไปเยี่ยมบ้าน แต่จนแล้วจนรอดพี่ชายก็ไม่ยอมกลับ ในที่สุด ด้วยความโกรธและน้อยใจ ลิ้มกอเหนี่ยว จึงเอ่ยปากสาบแช่ง
“แม้พี่ชายจะมีความสามารถในการก่อสร้างเพียงใด ขออย่าให้สร้างมัสยิดแห่งนี้สำเร็จ” สาบแช่งดังนั้นแล้วลิ้มกอเหนี่ยวจึงผูกคอตายที่ใต้ต้นมะม่วงหิมพานต์ ที่ข้างมัสยิดนั้นเอง
ลิ้มโต๊ะเคี่ยม ด้วยความเสียใจจัดการศพตามประเพณีแล้วจึงสร้างฮวงซุ้ยของ ลิ้มกอเหนี่ยวขึ้น ณ ที่ใกล้ๆ นั้น อย่างสมเกียรติ แล้วจึงทำการก่อสร้างมัสยิดต่อไปจนเกือบเสร็จอยู่ในขั้นก่อสร้างโดมหลังคา
วันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ฟ้าผ่าลงมายังโดมที่กำลังสร้างจนเสียหายหมดทั้งๆ ที่ไม่มีวี่แววพายุฝนแต่อย่างใด จากคราวนั้น ไม่ว่าลิ้มโต๊ะเคี่ยมจะพยายามก่อสร้างมัสยิดขึ้นใหม่ครั้งไร ก็มีเหตุให้ต้องหักพังลงมาทุกครั้ง ทำให้ลิ้มโต๊ะเคี่ยมเกิดความท้อใจ เลิกล้มการก่อสร้างมัสยิด เพราะคิดว่าคำสาบแช่งของน้องสาวมีความศักดิ์สิทธิ์
เล่ากันว่า ลิ้มกอเหนี่ยว ได้สำแดงความศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวเรือและผู้สัญจรไปมาในแถบนั้นเสมอ จนเป็นที่เลืองลือไปทั่ว เป็นเหตุให้ประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธาได้นำกิ่งต้นมะม่วงหิมพานต์ที่นางใช้ผูกคอตายมาแกะสลักเป็นรูปบูชาไว้สักการะและสร้างศาลให้เป็นที่ประดิษฐานรูปบูชา พร้อมกับขนานนามว่า “ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว”
ปรากฏว่าเมื่อตั้งศาลแล้ว ก็มีผู้คนหลั่งไหลไปกราบไหว้กันมากมาย ใครมีเรื่องเดือดร้อนก็ไปบนบานให้เจ้าแม่ช่วย บ้างก็กราบไหว้ขอให้ทำมาค้าขายเจริญ แล้วก็บังเกิดผลตามความปรารถนา ต่อมา พระจีนคณานุรักษ์ (ตันจูล่าย ต้นสกุล “คณานุรักษ์”) เห็นว่า ศาลเจ้าแม่ตั้งอยู่ที่บ้านกรือเซะ ไม่สะดวกในการประกอบพิธี จึงทำการบูรณะศาล โจวซือกง ในตัวเมืองปัตตานี และได้อัญเชิญองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวมาประดิษฐาน ภายหลังตั้งชื่อว่า “ศาลเจ้าเล่งจูเกียง” (ศาลเทพเจ้าแห่งความเมตตา) แต่ชาวบ้านทั่วไปยังคงเรียกกันติดปากว่า “ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” มากระทั่งทุกวันนี้
งานวันสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว จัดในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนอ้าย ตามจันทรคติจีนทุกปี คือหลังจากวันตรุษจีน ๑๕ วัน ตรงกับจันทรคติของไทยราววันเพ็ญ เดือน ๓ พิธีสมโภชจะเริ่มแต่เช้าตรู่ประมาณ ๖ นาฬิกา โดยจะมีการอัญเชิญองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว และองค์ประธานที่เรียกกันว่า พระหมอ โจวซือกง พร้อมด้วยเจ้าอีกหลายองค์ที่ประดิษฐานอยู่ในศาลแห่ไปตามถนนต่างๆ รอบเมือง พร้อมกับมีการเชิดสิงโต แห่ธงทิว คณะดนตรีบรรเลงตลอดทาง
ขบวนแห่ เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวนี้ จะมีเอกลักษณ์พิเศษ คือ มีการลุยน้ำ ลุยไฟ โดยการแห่ลงลุยน้ำมีทั้งที่เป็นน้ำทะเลและน้ำจืด น้ำทะเลเป็นการแห่ไปลงทะเลด้านปากแม่น้ำปัตตานี แล้วก็แห่แหนเข้ามาในเมืองลงลุยน้ำที่เชิงสะพานเดชานุชิต สะพานข้ามแม่น้ำปัตตานี โดยมีแนวคิดถึงการที่เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาตามหาพี่ชายด้วยความยากลำบาก
แห่ลงลุยน้ำเรียบร้อยแล้ว จึงมีการแห่องค์พระไปรอบเมืองให้ชาวบ้านร้านตลาดได้บูชา แล้วก็จะย้อนกลับไปทำพิธีลุยไฟที่ลานกว้างหน้าศาลเจ้าในช่วงบ่าย พิธีลุยไฟที่ศาลจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวนี้ สร้างความตื่นเต้นน่าสนใจแก่ผู้ชมมากจนกระทั่งกลายเป็นจุดเด่นทางการท่องเที่ยว มีคนเฝ้ารอชม มีการขายทัวร์มาชมกันเป็นเรื่องเป็นราว ทางศาลเจ้าจึงได้จัดสร้างอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ไว้ให้ได้ชมกันอย่างทั่วถึง
ส่วนในภาคกลางคืน ในวันนี้ งานศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ถือได้ว่าเป็นเวทีสุดยอดการแสดงการเชิดสิงโต โดยผู้แสดงต้องใช้ความสามารถสูง อย่างสิงโตขึ้นเสาดอกเหมย เท่านั้นยังไม่พอ กรรมการศาลเจ้าวันนี้ ยังได้เชิญคณะเชิดที่สำคัญๆ ของภูมิภาค และสาธารณรัฐประชาชนจีน มาร่วมประชันฝีมือให้ผู้ชมได้ชมกันทุกปี จนอาจจะกล่าวได้ว่าการแสดงเชิดสิงโต ณ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวแห่งนี้ในแต่ละปี ก็คือการชิงแชมป์เชิดสิงโตในประเทศไทยอย่างไม่เป็นทางการไปแล้วก็ว่าได้
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของความเชื่อ ความศรัทธา ของชาวปัตตานีและภูมิภาคใกล้เคียงที่มีต่อเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว หากที่สุดแล้ว สิ่งสำคัญของการกราบไหว้ การอธิษฐานขอพรให้สมดั่งประสงค์ ก็ล้วนต้องตั้งอยู่ในหลักแห่งคุณธรรมและการทำความดี ดังเช่นหลักคำสอนในทุกศาสนาที่มีมายาวนานนับพันปี
อิทธิปาฎิหารย์ความเชื่อความศรัทธาที่มีต่อเจ้าแม่
“เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” มีผู้คนหลั่งไหลไปกราบไหว้กันมากมาย มีเรื่องเดือดร้อนก็ไปบนบานให้เจ้าแม่ช่วยเหลือให้หายเจ็บไข้ได้ป่วยและให้มีโชคลาภ บ้างกราบไหว้เพื่อขอให้ทำมาค้าขายเจริญ เมื่อบนบานแล้ว ต่างก็บังเกิดผลตามความปรารถนาแทบทุกคน จึงทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวยิ่งแผ่ไพศาลไปยังเมืองอื่น ๆ มากขึ้นชาวต่างประเทศนิยมมากราบไหว้ขอพรทางด้านธุรกิจการงานเป็นจำนวนมากค่ะ
www.Luxuryhruhra.com ขอขอบพระคุณข้อมูลที่มา thaigoodview.com และอาจารย์วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
รายละเอียดในการรับประกันพระ
ทางร้านรับประกันพระแท้ " ตามหลักมาตรฐานสากล " ของวงการพระเครื่อง
ในระยะเวลา 7 วัน หลังจากท่านได้รับพระหรือวัตถุมงคลจากทางร้าน
หากเก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนโดยไม่หักเปอร์เซ็นต์ใดๆ ทั้งสิ้น
หมายเหตุ สำคัญค่ะ
( ถ้าเกินระยะเวลา 7 วัน หลังจากได้รับสินค้าแล้ว ทางร้านไม่รับคืน ทุกกรณีค่ะ)
กรณีที่ต้องการคืนพระ ต้องผ่านการตรวจสอบ เงื่อนไขมีดังนี้
ส่งพระเข้าตรวจสอบกับทางสมาคมพระเครื่อง หรือ เว็บไซส์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับ และออกใบรับรองอย่างชัดเจน
( โดยชี้ชัดว่า "เก๊" ทางร้านยินดีคืนเงินให้ทันที และจะออกค่าใช้จ่ายในส่วนการตรวจสอบคืนให้ด้วยค่ะ )
ทางร้านจะไม่ยอมรับการตัดสินจากบุคคลใดๆ ทั้งสิ้นที่อ้างตัวเป็นผู้รู้ และ ไม่มีเอกสารการตรวจสอบชัดเจน
จะยอมรับเฉพาะกรณีที่แจ้งไว้ข้างต้นเท่านั้น
โดยวัตถุมงคลจะต้องอยู่ในสภาพเดิมเหมือนดังในรูป ไม่ล้างผิว ชำรุดหักบิ่น และเสียสภาพจากเดิม
หน้าที่เข้าชม | 2,389,819 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,754,828 ครั้ง |
เปิดร้าน | 12 ก.พ. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 8 ก.ย. 2568 |