เข็มกลัดหยินหยางอาจารย์สง่ากุลกอบเกียรติวิหารเซียนอเนกกุศลศาลาพัทยาจ.ชลบุรีเนื้อกะไหล่ทองลงยา

ชื่อสินค้าเข็มกลัดหยินหยางอาจารย์สง่ากุลกอบเกียรติวิหารเซียนอเนกกุศลศาลาพัทยาจ.ชลบุรีเนื้อกะไหล่ทองลงยา

รายละเอียดสินค้า

เหรียญนี้มีแค่เหรียญเดียวเท่านั้นคะ  จัดส่งตรงตามภาพที่แสดงเลยคะ
สีเหรียญอาจคลาดเคลื่อนจากเหรียญจริงไปบ้างเล็กน้อย เนื่องจากการจัดแสงเวลาถ่ายภาพคะ

ขนาดความกว้าง 3  เซนติเมตร
ขนาดความยาว,สูง  3 เซนติเมตร

สินค้านี้เป็นพระเก่าเก็บ ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน อาจมีคราบสนิม ความเก่าที่เกิดตามกาลเวลา
พิจารณาได้ตามรูปคะ


คุณลูกค้าสนใจสินค้า สามารถสั่งซื้อได้ที่หน้าเว็ป หรือแอดไลน์ มาได้ที่ hra7215 คะ
ขอบพระคุณมากคะ

“วิหารเซียน” มีชื่ออย่างเป็นทางการคือ “อเนกกุศลศาลา” สถานที่รวบรวมงานศิลป์ไทย-จีน และศิลปวัตถุโบราณอายุสองพันกว่าปี โดยเฉพาะหุ่นทหารดินเผา “จิ๋นซี ฮ่องเต้” ของแท้ จากสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ เมืองซีอาน ซึ่งถือเป็นสถานที่แห่งแรกในโลกที่ได้รับเกียรติจากประเทศจีน เป็นแหล่งเรียนรู้ศิลปะวัฒนธรรมไทย-จีน ให้ชาวไทยได้ชมของแท้อย่างใกล้ชิด ตั้งอยู่ที่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี (อยู่ไม่ไกลกับวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร) โดย อาจารย์สง่า กุลกอบเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์ฮวงจุ้ยของจีนเป็นผู้ก่อตั้ง มีจุดประสงค์เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และความกตัญญูกตเวที ที่มีต่อประเทศชาติ พระราชวงศ์ และองค์พระมหากษัตริย์ ของชาวไทยเชื้อสายจีน ที่อาศัยในประเทศไทย

 

อ.สง่า ริเริ่มออกแบบก่อสร้างสถานที่แห่งนี้ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวง รัชกาลที่ 9) พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ก่อสร้างบนที่ดินในบริเวณโครงการพัฒนาพื้นที่วัดญาณสังวรารามอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 7 ไร่ ซึ่งได้รับพระราชทานเมื่อปี 2530 จากนั้นเริ่มก่อสร้างในปี 2531 นอกจากนี้ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามของอาคารแห่งนี้ว่า “อเนกกุศลศาลา” และเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดอเนกกุศลศาลาในปี 2536

 

อเนกกุศลศาลา หรือวิหารเซียน มีชื่อภาษาจีนว่า “ต้า ผู้ อี่” (แต้จิ๋ว) หรือ “ต้าน ฝู เยวี้ยน” (จีนกลาง) ซึ่งมีความหมายว่า “สถานที่ที่มีบรรยากาศดั่งสรวงสวรรค์” ปัจจุบันวิหารเซียนถือเป็นหนึ่งในสถานที่ไฮไลต์สำหรับผู้มาเยือนพัทยาและชลบุรี

ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมงานศิลป์ที่สำคัญแห่งหนึ่งในประเทศไทย

วิหารเซียนมีอาคารหลักเป็นอาคารสูงสามชั้นในรูปทรงแบบจีน มีกลุ่มศาลาเก๋งบริวารโดยรอบ สร้างขึ้นตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อความเป็นสิริมงคล เมื่อเข้าไปในด้านในบริเวณชั้น 1 จะได้พบการตกแต่งอย่างอลังการด้วยศิลปะแบบจีน และศิลปวัตถุล้ำค่าที่ส่วนใหญ่เป็นสมบัติส่วนตัวของ อ.สง่า ที่เก็บสะสมไว้ อีกส่วนหนึ่งลูกศิษย์ลูกหานำมามอบให้ นอกจากนี้ ยังมีโบราณวัตถุและศิลปวัตถุอีก 328 รายการ ที่รัฐบาลจีนมอบให้แก่ อ.สง่า อาทิ งานดินเผาชุด 18 อรหันต์ ที่รัฐบาลกวางโจว ร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่นโฝวซาน

 

สำหรับภายในมีหลายส่วนที่น่าสนใจ เช่น ดินเผาชุด 18 อรหันต์ ใช้ดินพิเศษที่เผาออกมาแล้วมีสีน้ำตาลสวยงามเป็นรูปพระอรหันต์ 18 องค์ ที่แสดงรายละเอียดของงานปั้นแต่ละองค์อย่างงดงาม ทั้งกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น การแสดงออกทางอารมณ์และสีหน้า โดยแต่ละองค์จัดแสดงไว้ในตู้กระจกด้านหน้าวิหาร

ส่วนภาพวาดที่ประดับอยู่เหนือหน้าต่างทั้งสองด้านของวิหารเซียน เป็นภาพที่หน่วยงานเอกชนประเทศไต้หวันมอบให้ มีความพิเศษอยู่ตรงสีสันอันสดใสทำจากอัญมณีหลากหลายชนิด เช่น สีแดงมาจากทับทิม สีเหลืองมาจากบุษราคัม สีขาวมาจากไข่มุก และสีเขียวมาจากมรกต เป็นต้น โดยการนำอัญมณีเหล่านั้นมาบดละเอียด ผสมกับน้ำยาสูตรลับพิเศษทาบนรูปภาพ แม้ผ่านไปนับร้อยนับพันปีสีก็ไม่ซีดไม่หมอง เทพกวนตี้บนหลังม้าศึก หรือเทพกวนอู วีรบุรุษนักรบที่มีชื่อเสียง ได้รับยกย่องด้านความกล้าหาญและซื่อสัตย์จงรักภักดี มีภาพเขียนเก่าแก่รูปแปดเซียนจำนวน 8 ภาพ อายุมากกว่า 500 ปี เขียนโดยศิลปินผู้มีชื่อเสียงในราชวงศ์หมิง ถือเป็นภาพต้นฉบับของรูปแปดเซียน อีกทั้งยังมีรูปหล่อของเทพเจ้าและองค์เซียนต่างๆ มีทั้ง “พระสหัสกรอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์” (กวนอิมพันมือ) รูปหล่อสำริดโบราณสมัยราชวงศ์ถัง

 

“พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์” ในพุทธลักษณะแบบจีนนั้น จะมีรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ มีรอยยิ้มกว้าง ผู้คนมักมาขอพรจากท่านให้มีสุขภาพแข็งแรงและร่ำรวย และองค์ “พญาครุฑคเณศวร” ที่จำหลักขึ้นจากไม้สักทองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นเพื่อทูลเกล้าถวายแด่ในหลวง รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 85 พรรษา เมื่อปี 2555

 

พระวิสุทธิเทพลื่อท่งปิง หรือ องค์โจวซือ ซึ่งเป็น 1 ใน 8 เซียน ผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลม มีความทรงจำเป็นเลิศ ประดิษฐานบนชั้น 2 นับเป็นเซียนองค์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากที่สุดองค์หนึ่งในวัฒนธรรมจีน บนชั้นสอง ที่ลานระเบียง มีรูปหล่อชุด 19 ท่ามวยจีน ที่อาจารย์สง่าบอกไว้ว่าหากได้ฝึกวันละท่าจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง บริเวณด้านซ้ายและขวาของระเบียง ยังเป็นห้องจัดแสดงงานศิลปกรรมไทย จัดแสดงงานศิลปกรรมไทยอันมากคุณค่า หัวโขน หุ่นละครเล็กของครูสาคร ยังเขียวสด แห่งโจหลุยส์ เธียเตอร์ หุ่นกระบอกเล็กฝีมือครูชื้น สกุลแก้ว ศิลปินแห่งชาติ งานแกะสลักจากเชียงใหม่ ชุดเรือจำลองเรือนไทยสี่ภาคจำลอง เครื่องดนตรีไทย ฯลฯ

บริเวณชั้น 1 มีไฮไลต์สำคัญที่ผู้มาเยือนไม่ควรพลาด “หุ่นทหารดินเผา” ของแท้จากสุสาน “จิ๋นซี ฮ่องเต้” อายุเก่าแก่กว่า 2,200 ปี ที่ถูกขุดพบภายในสุสาน “จิ๋นซี ฮ่องเต้” ในเมืองซีอาน ประเทศจีน ที่มาจัดแสดงให้ชมกัน หุ่นทหารดินเผาเหล่านี้ รวมไปถึงชุดม้าสำริดที่พบในสุสานจิ๋นซีนั้น อ.สง่า ได้รับมอบเป็นพิเศษจากรัฐบาลของประเทศจีน โดยความรับผิดชอบประสานงานของกระทรวงวัฒนธรรมจีน ชั้น 2 เป็นที่ประดิษฐานพระวิสุทธิเทพลื่อท่งปิง หรือที่เรารู้จักกันในนามของ องค์โจวซือ ซึ่งเป็น 1 ใน 8 เซียน ผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลม มีความทรงจำเป็นเลิศ นับเป็นเซียนองค์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากที่สุดองค์หนึ่งในวัฒนธรรมจีน และที่พลาดไม่ได้คือที่ลานระเบียง ซึ่งมีรูปหล่อชุด 19 ท่ามวยจีน อาจารย์สง่าบอกไว้ว่าหากได้ฝึกวันละท่าจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ส่วนชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นบนสุด เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชที่จำลองมาจากพระพุทธชินราชเมืองพิษณุโลก หล่อขึ้นโดยจ่าทวี บูรณเขตต์ และมีภาพพุทธประวัติอันงดงาม 15 ภาพ

นอกจากนี้ อ.สง่ายังได้รับมอบแบบจำลองสุสานของจักรพรรดิ “จิ๋นซี ฮ่องเต้” ที่จำลองมาจากของจริงที่ขุดพบด้วย ซึ่งประเทศจีนไม่เคยมอบสิ่งเหล่านี้ให้ใครเป็นการถาวรมาก่อน แต่ได้มอบให้แก่วิหารเซียนเป็นแห่งแรก ถือเป็นโอกาสดีของชาวไทยที่ได้ชมหุ่นดินเผาจากสุสาน “จิ๋นซี ฮ่องเต้” ของแท้อย่างใกล้ชิดโดยไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงเมืองซีอาน

โดยมีการจัดแสดงนิทรรศการ “จิ๋นซี ฮ่องเต้” จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินจีนกับกองทัพทหารดินเผา โบราณวัตถุจากพิพิธภัณฑ์สุสานจักรพรรดิจิ๋นซี สาธารณรัฐประชาชนจีนกว่า 86 ชิ้น ภายใต้นิทรรศการชื่อ “จิ๋นซี ฮ่องเต้: จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินจีนกับกองทัพทหารดินเผา” ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 กันยายน-15 ธันวาคม 2562 โดยมีโบราณวัตถุชิ้นสำคัญอายุกว่า 2,700 ปี ได้แก่ พลธนูสวมชุดเกราะ รถม้าสัมฤทธิ์จำลอง รูปปั้นสาวใช้สมัยราชวงศ์ฮั่น ตุ๊กตารูปสัตว์ เช่น หมู ม้า เป็นต้น โดยเฉพาะดินเผานักรบจิ๋นซีฮ่องเต้

 

นางจินตนา กุลกอบเกียรติ กรรมการและผู้จัดการ มูลนิธิเอนกกุศลศาลา (วิหารเซียน) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ กล่าวว่า สถานที่แห่งนี้ที่เรียกกันว่า “วิหารเซียน” นามพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงโปรดเกล้าพระราชทานนามว่าอเนกกุศลศาลาเป็นนามพระราชทาน โดยท่านอาจารย์สง่า กุลกอบเกียรติ ได้รับพระราชทานที่แปลงนี้จากพระองค์ท่าน สร้างเป็นอนุสรณ์ของชาวไทยเชื้อสายจีนแล้วถวายพระองค์ท่านในนามชาวไทยเชื้อสายจีนทั้งหมด ในวันที่ถวายวิหารมีของที่ทางรัฐบาลจีนได้มอบให้กับท่านอาจารย์ 328 รายการ ซึ่งหนึ่งใน 328 รายการนั้น มีตุ๊กตาหรือหุ่นทหารที่ขุดพบในสุสานจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ มีสุสานจำลองของสุสานจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ ซึ่งเป็นของที่รัฐบาลจีนในนามของกระทรวงวัฒนธรรมจีน ได้มอบให้กับท่านอาจารย์ทั้งหมด 328 รายการ จะมีหุ่นเสนาธิการทหาร พลทหาร แล้วที่ด้านหลังจะเป็นพลทหารคู่กับม้า และในห้องโถงใหญ่ มีชุดรถมาอีก 2 ชุด ซึ่งเป็นของที่ทางรัฐบาลจีนได้มอบให้กับท่านอาจารย์สง่า เพื่อตั้งแสดง ณ เอนกสนทนาวิหารแห่งนี้เป็นการถาวร เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ซึ่งสถานที่แห่งนี้ จะเป็นสายสัมพันธ์ระหว่างสองแผ่นดิน จะรวบรวมศิลปวัฒนธรรมทั้งไทยและจีนเพื่อรวบรวมไว้ให้อนุชนรุ่นหลังเข้ามาเรียนรู้วัฒนธรรมของ 2 ประเทศนี้ด้วย

www.Luxuryhruhra.com ขอขอบพระคุณข้อมูล มติชนออนไลน์ค่ะ