รหัสสินค้า | SKU-06736 |
หมวดหมู่ | เหรียญองค์เทพเจ้าจีน |
ราคา | 0.00 บาท |
อัพเดทล่าสุด | 12 มี.ค. 2566 |
ประวัติองค์เต๋าบ้อหง่วงกุง สมเด็จพระมารดาเจ้าแห่งดวงดาวทั้งหลายในจักรวาล
องค์เต๋าบ้อหง่วงกุง
สมเด็จพระมารดาเจ้าแห่งดวงดาวทั้งหลายในจักรวาล
ตำนานที่หนึ่ง
เดิมทีมารดาขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้นั้น มีชื่อทางภาษาจีนว่า ซาจับซาทีเหล่าอ๊วงบ้อ (แม่ขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ที่สถิต ณ สวรรดิ์ชั้นที่ 33) หรือ องค์พระอนุตรธรรมมารดา ท่านเป็นพระมารดาแท้ๆขององค์เง็กอ๊วง แต่เพราะท่านต้องการละทางโลกเข้าสำเร็จธรรมท่านจึงนิรมาณกาย (แบ่งภาค) ออกมาเป็น
1. องค์เอี่ยวตี๊กิมบ้อบ่อเก็กเทียงจุง( 金母 ) เพื่อให้เป็นแม่นมขององค์เง็กอ๊วง เพื่อให้ดูแลราชกิจแทนพระองค์ สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในนามพระมารดาแห่งองค์เง็กอ๊วงไต้เทียงจุง
2.นิรมาณกายเป็นเต้าบ้อ (斗姆) พระมารดาแห่งดวงดาวหรือ มาริจีโพธิสัตว์ หรือ มอลีกีเทียน หรือ พระมารดาแห่งดวงดาวทั้งหลายและเป็นพระมารดาขององค์กิ๋วอ๊วง (เทพเจ้าที่เราเคารพในเทศกาลกินเจ)แท้จริงแล้วกายของพระองค์ท่านเป็นเพียงแค่แสงสว่าง ( กิมกวง ) เวลาพวกเต๋า หรือ ตามโรงเจจะตั้งกิมบ้อเต็ง เป็นตะเกียงแล้วมีรัศมีล้อมรอบ เอาไว้แทนองค์กิมบ้อ แต่ที่เราเห็นกันนั้นเป็นเพียงองค์สมมติแห่งองค์ท่าน โดยที่ข้อสังเกตุอีกประการหนึ่ง องค์ซาจับซาทีเหล่าอ๊วงบ้อ หรือ พระอนุตรธรรมมารดานั้น รูปกายที่นิรมานคือ หญิงชรา อาวุโส มีเกศาสีขาว ถือไม้เท้ามังกร
ส่วนองค์กิมบ้อนั้น รูปกายที่ท่านนิรมาณ คือ
1.หญิงชราเกศาขาว ถือไม้เท้ามังกร และลูกท้อ
2.หญิงวัยสาว(เพราะถือว่าองค์กิมบ้อท่านสวยมากๆและท่านไม่มีวันแก่ เพราะท่านเป็นเจ้าของสวนท้ออายุวัฒนะ กินแล้วเป็นอมตะไม่มีวันแก่ ไม่มีวันตาย) แต่เกศาขาว ถือไม้เท้ามังกร และลูกท้อ
ส่วนองค์เต้าบ้อหง่วงกุง หรือ พระมารดาแห่งดวงดาว ในภาคที่นิรมาณกายเป็นภาคจีนจะคล้ายๆกัน คือ เป็นหญิงสาวแต่เกศาดำ ส่วนในภาคมาริจี หรือ มอลีกีเทียน ท่านจะมีหลายพระหัตถ์ทำท่าทางและมี 2 พระหัตถ์ถือดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ท่านทรงหมูป่า 7 ตัว มี 3 เศียร ตรงกลางเป็นหน้าหญิง อีกข้างเป็นยักษ์ และ อีกข้างเป็นหมูป่า ทรงนั่งบนราชรถที่มีหมูป่า 7 ตัวเป็นสัตว์เทียมพาหนะ
ตำนานที่สอง
บางตำนาน พระแม่โต๊วหมู่หยวนจวิน หรือ พระแม่เต้าบ้อหง่วงกุง ศาสนาเต๋าได้สถาปนาองค์โต๊วหมู่หยวนจวิน ให้เป็นองค์ผู้ทรงสร้างดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ทั้งมวลบนเทห์ฟากฟ้า ทรงเป็นเทพธิดาแห่งดาวเหนือ พระนามเต็มคือ “จิ่วเลี่ยงไท่เมี่ยวไป๋อวี้กุ้ยไท่จวี่กวง จินจิงจวี่หมู่หยวนจวิน” 九靈太妙白玉貴台祖光金精祖母元君 บางครั้งเรียกขานพระนามว่า โต๊วหมู่หยวนจวิน หรือ เต้าบ้อหยวนกุน โต้วหมู่หยวนกุน หรือ ตู้หมู่หยวนกุน แล้วแต่สำเนียงท้องถิ่นไหนจากเทพนิยายการสร้างโลกในพงศาวดารจีน หนังสือชื่อ ไคเภ็ก ได้กล่าวถึงการสร้างโลกไว้ โดยอาศัยพุทธศาสนาฝ่ายมหายานเป็นพื้นฐาน ประกอบตำนาน ส่วนศาสนาเต๋าในปัจจุบัน ได้ก้าวไปสู่การนำเอาหลักวิทยาศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง อธิบายให้สมเหตุผล ในข้อสันนิษฐานการสร้างจักรวาล แล้วนำเอาเทพเจ้าสูงสุดเข้าไปเกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดสมเหตุผลมากขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ ประมาณ 140,000,000,000 ปีมาแล้ว เมื่อระบบจักรวาลได้ระเบิดขึ้น แต่องค์เต้าบ้อหง่วงกุงได้เกิดขึ้นตั้งแต่ 1,230,000,000,000,000++ ปี
ส่วนโลกมนุษย์ได้เย็นลงเมื่อ 91,000,000,000 ปี แล้วได้มีการสถาปนา ซานฉิง (三清) หรือส่ามก้วนไต่เต่ (三官大帝) หรือสามผู้ยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์ ได้แก่
1. เทพหยวนซื่อเทียนจวิน 元始天尊
2. หลิงเป่าเทียนจวิน 靈寶天尊 ถือ หยู่อี่
3. เต๋อไต้เทียนจวิน 道德天尊 ถือ พัด
ต่อมาซานฉิงจึงทรงสถาปนา องค์หยกอ๋องส่องเต่ หรือ อวี้หวงต้าตี้玉皇大帝 เพื่อให้ทรงปกครองบริหารดูแล คล้ายตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมกับสถาปนา โฮ่วถู่หวงจือ后土皇祗 พระราชินีของฮ่องเต้แห่งสวรรค์ ซึ่งมีหน้าที่ปกครองดูแลสวรรค์และโลกมนุษย์ในช่วงที่จักรวาลได้ระเบิดอยู่นั้น ทำให้เกิดแสงเจิดจ้ารัศมีสว่างจ้าไปทั่ว พร้อมทั้งพลังงานแห่งความร้อน จึงทำให้เกิดพระนามอีกพระนามหนึ่งของพระองค์ คือ จวี่กวง หรือ จวี่กวงฟู่เหยิน หรือ พลังแสงสีม่วง ที่มีพลังความร้อนสูง การระเบิดครั้งนี้ทำให้เกิดเทห์วัตถุขนาดต่างๆลอยอยู่ นั่นคือ ดาวฤกษ์ ซึ่งยังคงความร้อน ทำให้เราเห็นแสงกระพริบในเวลากลางคืน อีกกลุ่มหนึ่งคือ ดาวเคราะห์ที่ดับและเย็นลงแล้ว เช่น ดวงจันทร์ ดาวพุธ โลก ฯลฯ จากเทห์ฟากฟ้าที่มองเห็น ดวงดาวเป็นกลุ่มๆนี่เอง ได้มีการตั้งชื่อ เป็น กลุ่มดาวเหนือ หรือ เป่ยโต๊วซิง หรือ ปักเต้าแช 北斗星 มีฮ่องเต้แห่งดวงดาว คือ จื่อเว่ยต้าตี้ 紫微大帝 หรือ จื่อเว่ยซิง 紫微星 และเทียนหวงซิง 天皇星 ผู้ช่วยแห่งดวงดาว เป็นต้น
ตำนานที่สาม
จากตำนานหนึ่ง ได้กล่าวถึงประวัติไว้ว่า เดิม พระนางเป็นสามัญชน เป็นผู้หญิงพรหมจรรย์ พำนักอยู่ในราชอาณาจักรโจวเอวทางทิศเหนือ กษัตริย์แห่งอาณาจักรนี้ทรงทราบข่าวของพระนาง จึงได้ขออภิเษกสมรส จนพระนางได้มีพระโอรสถึง ๙ องค์ อาณาจักรแห่งนี้เพียบพร้อมด้วยกษัตริย์ที่ทรงไว้ซึ่งคุณธรรม ทศพิธราชธรรม ความเป็นธรรม ราษฎรต่างได้รับความสุขกันถ้วนหน้า ขณะนั้นเทพหยวนซื่อเทียนจวินได้เสด็จผ่านทางอาณาจักรนั้น ทรงเห็นจึงเหาะลงไปหาท่านอ๋อง มเหสีและโอรสทั้ง ๙ องค์ แล้วตรัสชวนให้ขึ้นสวรรค์ไปพร้อมกัน ทรงสถาปนาพระนางให้เป็น เทพเจ้าโต๊วหมู่หยวนจวิน และโอรสทั้งเก้าเป็นเทพกลุ่มดาวเหนือที่เรียกว่า จิ่วหวงต้าตี้ หรือ กิวอ๋องไต่เต่
ตำนานที่สี่
อีกตำนานหนึ่งจากคัมภีร์ของศาสนาเต๋า กล่าวเกี่ยวกับองค์เต้าบ้อหง่วงกุงไว้ว่า วันหนึ่งพระนางได้เสด็จประพาสอุทยาน เสด็จไปถึงสระน้ำพุร้อน และถัดไปเป็นสระบัว ทรงหลงไหลน้ำอุ่นจึงเสด็จลงสรงน้ำอุ่นในสระนั้น อย่างสบายพระทัย ทันใดนั้น ปรากฏว่ามีดอกบัวตูมกำลังทะยอยกันโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำจำนวน ๙ ดอก ในดอกบัวนั้นมีเด็กผู้ชายน่ารักน่าชัง พระนางจึงทรงนำขึ้นไปพระตำหนัก ทรงเลี้ยงเป็นบุตรทั้งเก้าองค์ และทรงได้รับการสถาปนาพระนามว่า เป่ยโต๊วจิ่วเจินเซิ่งเต๋อเทียนจวิน北斗九真聖德天后
เต๋าบ้อ 斗母 หรือ เต๋าบ้อหง่วงกุง 斗姆元君 ท่าน คือ เทพมารดรของกลุ่มเทพนพเคราะห์ดาวเหนือ
ปักเต๋าแซกุง(北斗星君) และ กลุ่มเทพนพเคราะห์ดาวใต้ หรือ น่ำเต๋าแชกุง(南斗星君)
เชื่อกันว่าเต๋าบ้อ 斗母 ท่านคือผู้ให้กำเนิด กลุ่มเทพดาวนพเคราะห์เหนือและใต้ และเป็นผู้ดูแล
ดวงชะตาของมนุษย์ อีกทั้งท่านยังเป็นผู้รักษาสมดุลแห่งพลังชีวิตของสรรพสิ่งในจักรวาล
รวมถึง ธาตุหลักของโลกหรือ ธาตุทั้งห้า ได้แก่
木 บัก ธาตุไม้ 火 ฮ้วย ธาตุไฟ水 จุ้ย ธาตุน้ำ
金 กิม ธาตุทอง 土 โท้ว ธาตุดิน อีกทั้งท่านจะเป็นผู้ขจัดเคราะห์ กรรมของเหล่าสรรพสัตว์
องค์เต๋าบ้อหง่วงกุงจะมีทั้งปางยืนและนั่ง โดยท่านมีแปดกร ในแปดกรของท่านโดยมากจะถือ พระอาทิตย์ วงกลมที่จารคำว่า 日 ยิก พระอาทิตย์ หรือ วงกลมสีส้มมีรูปอีกาดำภายใน มี พระจันทร์ , คันธนู , กระบี่วิเศษ , กระดิ่ง,ตราประทับหยก , ทวน , เจดีย์
จากการบอกกล่าวท่านคือเทพมารดรของ กลุ่ม ดาวเหนือบ้างก็กล่าวกันว่า พระองค์ท่านคือจักรวาลผู้ให้กำเนิด ดาวนพเคราะห์ซึ่งเป็น ผู้ปกครองของ พลับพลาแห่งทรัพย์สมบัติของสวรรค์และ เป็นผู้รับผิดชอบการดำรง ชีวิตของมนุษย์ อีกทั้งยังทรงเป็นผู้จัดการให้ธาตุทั้ง 5 คือ ไม้ ไฟ ดิน ทอง และ น้ำ ประสานกลมกลืนกัน พร้อมกับรักษาระดับความสมดุล ของพลังแห่งชีวิตมนุษย์ สัตว์ และ พืชพรรณ ต่างๆ จึงเป็นผู้ที่ลบล้างสิ่งที่ขาด พลังแห่งชีวิตและเป็นผู้ที่ ทำลายหรือ กำจัดเคราะห์ กรรมต่างๆของมนุษย์ ที่มีความเลวร้ายให้หมดสิ้นไปลักษณะ
รูปเคารพขององค์เต้าบ้อหง่วงกุงมีหลายรูปแบบได้แก่
1. องค์ประทับนั่งขัดสมาธิบนฐานดอกบัวมือขวาถือป้ายเป็นแท่งยาวๆเรียบๆ
2. องค์ประทับนั่งเก้าอี้ชุดทรงอย่างกษัตริย์มือขวากระชับเข็มขัด
3. องค์ประทับนั่งขัดสมาธิ แสดงอภินิหาร มือประสานหน้าตักคู่หนึ่งพนมมือเสมออกคู่หนึ่ง ที่เหลือ แปดกร แขนซ้าย ถือธง ดวงอาทิตย์ ดาบ และ แก้วกายสิทธิ์ และ แขนขวา ถือธง ดวงจันทร์หอกซึ่งมีขวานประกอบ และ ระฆัง ซึ่งมีด้าม
4. องค์ประทับนั่งขัดสมาธิ ประกอบด้วยมือ 9 คู่ แต่ละ มือถือสิ่งของมีค่า
วัตถุที่มีค่าขององค์เต้าบ้อหง่วงกุง มีความหมายถึงพลังต่างๆของพระองค์ท่าน ยกตัวอย่างเช่น
-พระอาทิตย์และพระจันทร์ แสดงถึงพลังขององค์เต้าบ้อหง่วงกุง ที่ย่างก้าวระหว่างพระอาทิตย์ และ พระจันทร์ ซึ่งควบคุมจักรวาล และธรรมชาติโดยปรากฏชัดเจนใน เวลากลางวันและกลางคืน หรือความสว่าง และความมืด อีกทั้งยังหมายถึงความร้อนและความเย็น ความดีและความชั่ว การมีสุขภาพดีและการเจ็บป่วย
-คันธนูและธนู มีความหมายถึงพลังขององค์เต้าบ้อหง่วงกุงที่ปกปักรักษา มนุษย์จากสงครามและโรคระบาดอีกทั้งยังรักษาสันติภาพและความสงบสุข
-ธงสามเหลี่ยม มีความหมายถึงการอนุรักษ์หรือดำรงดินแดนของอำนาจการปกครองแห่งกษัตริย์
-ประคำ หมายถึง สื่อกลางการอุทิศตัวเพื่อความเคร่งครัด การบำเพ็ญ ตบะ ซึ่ง เป็นวิถีทางในการพ้นทุกข์
คนจีนเชื่อว่า องค์เต้าบ้อหง่วงกุงก่อเกิดในฐานะของเจ้าแม่แห่งความดี และความมีเมตตา อีกทั้ง พระองค์ยังได้ช่วยบำรุง รักษาดุลยภาพ หรือการสมดุลของจักรวาลจัดหาวิธีการยัง ชีพของมนุษย์ และยังเป็นผู้ลงความเห็นหรือพิจารณาพิพากษาความดีความชั่ว พระองค์ท่านยังเป็นผู้ควบคุมการเกิด การตาย ควบคุมตำแหน่ง หน้าที่การงานของมนุษย์ โชค วาสนา ความมั่งคั่ง ความสุข การมีสุขภาพ แข็งแรง ปราศจากโรคและอายุยืนนาน ด้วยความเมตตาขององค์เต้าบ้อหง่วงกุง พระองค์ท่านจึงได้ส่งพระโอรสทั้ง 9 พระองค์ นั่นก็คือ องค์กิ้วอ๋องไต่เต่ หรือจิ่วหวางต้าตี้ ซึ่งเป็นผู้ปกครองสูงสุดของ กลุ่มดาวเหนือหรือบางท่านกล่าวว่าเป็นดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 ดวง ให้จุติลงมาเป็นกษัตริย์ ปกครองโลกมนุษย์ ใน สมัยไคเภ็กตามตำนาน เปิดโลก ของคนจีนกล่าวไว้ว่าครั้งนั้นเกิดควันจาก พื้นดิน พุ่งขึ้นไปบนอากาศกลาย เป็นมนุษย์ 9 คน กำลังออกมาจากกลุ่มเมฆ ซึ่งองค์โต ได้เป็นกษัตริย์ชื่อว่า ยี่นอ่องสีฮ่องเต้ พร้อมทั้งอนุชา อีก 8 องค์ต่างแยกย้ายไปอาศัยอยู่คนละที่ และได้ช่วยกันจัดตั้ง ธรรมเนียมฮ่องเต้( กษัตริย์ ) ธรรมเนียมขุนนาง และ ราษฎร เพื่อสอนให้ มนุษย์รู้จักการมีระบบระเบียบแบบแผน รู้จักความสัตย์ซื่อและรู้จักแบ่งการบริโภคเป็น 3 เวลา คือ เช้า กลางวัน เย็น รู้จักเวลากิน เวลานอน
กษัตริย์ ทั้ง 9 พระองค์นี้ยังมีพระนาม ในภาษาจีนแมนดาริน เรียงลำดับดังนี้
องค์ที่1 มีชื่อเรียกว่า เทียนเผิง
องค์ที่2 มีชื่อเรียกว่า เทียนเร่ย
องค์ที่3 มีชื่อเรียกว่า เทียนชง
องค์ที่4 มีชื่อเรียกว่า เทียนฟู
องค์ที่5 มีชื่อเรียกว่า เทียนฉิน
องค์ที่6 มีชื่อเรียกว่า เทียนซิน
องค์ที่7 มีชื่อเรียกว่า เทียนจู้
องค์ที่8 มีชื่อเรียกว่า เทียนเหริน
องค์ที่9 มีชื่อเรียกว่า เทียนยิง
ต่อมาเก้ากษัตริย์ ผู้ปกครอง โลกมนุษย์นี้ได้จุติเป็นดาว 9 ดวง ดังนี้
1.ดาวเทียนเผิง ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ
มีสัญลักษณ์ธาตุ คือ ธาตุน้ำ
2.ดาวเทียนเร่ย ตั้ง อยู่ทาง ทิศตะวันตกเฉียงใต้มีสัญลักษณ์ ธาตุ คือ ธาตุดิน
3.ดาวเทียนชง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก
มีสัญลักษณ์ธาตุคือ ธาตุไม้
4.ดาวเทียนฟู ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
มีสัญลักษณ์ธาตุ คือ ธาตุไม้
5.ดาวเทียนฉินตั้งอยู่ทางทิศกลาง( ตรงกลาง )
มีสัญลักษณ์ ธาตุ คือ ธาตุดิน
6.ดาวเทียนซิน ตั้งอยู่ทาง ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
มีสัญลักษณ์ธาตุ คือ ธาตุทอง
7.ดาวเทียนจู้ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก
มีสัญลักษณ์ธาตุ คือ ธาตุทอง
8.ดาวเทียนเหริน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีสัญลักษณ์ธาตุ คือ ธาตุดิน
9.ดาวเทียนยิง ตั้งอยู่ทางทิศใต้
มีสัญลักษณ์ธาตุ คือ ธาตุไฟ
www.Luxuryhruhra.com ขอขอบพระคุณภาพและที่มาจากศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้ออ่างศิลา จ.ชลบุรี ค่ะรายละเอียดในการรับประกันพระ
ทางร้านรับประกันพระแท้ " ตามหลักมาตรฐานสากล " ของวงการพระเครื่อง
ในระยะเวลา 7 วัน หลังจากท่านได้รับพระหรือวัตถุมงคลจากทางร้าน
หากเก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนโดยไม่หักเปอร์เซ็นต์ใดๆ ทั้งสิ้น
หมายเหตุ สำคัญค่ะ
( ถ้าเกินระยะเวลา 7 วัน หลังจากได้รับสินค้าแล้ว ทางร้านไม่รับคืน ทุกกรณีค่ะ)
กรณีที่ต้องการคืนพระ ต้องผ่านการตรวจสอบ เงื่อนไขมีดังนี้
ส่งพระเข้าตรวจสอบกับทางสมาคมพระเครื่อง หรือ เว็บไซส์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับ และออกใบรับรองอย่างชัดเจน
( โดยชี้ชัดว่า "เก๊" ทางร้านยินดีคืนเงินให้ทันที และจะออกค่าใช้จ่ายในส่วนการตรวจสอบคืนให้ด้วยค่ะ )
ทางร้านจะไม่ยอมรับการตัดสินจากบุคคลใดๆ ทั้งสิ้นที่อ้างตัวเป็นผู้รู้ และ ไม่มีเอกสารการตรวจสอบชัดเจน
จะยอมรับเฉพาะกรณีที่แจ้งไว้ข้างต้นเท่านั้น
โดยวัตถุมงคลจะต้องอยู่ในสภาพเดิมเหมือนดังในรูป ไม่ล้างผิว ชำรุดหักบิ่น และเสียสภาพจากเดิม
หน้าที่เข้าชม | 2,391,677 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,756,686 ครั้ง |
เปิดร้าน | 12 ก.พ. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 9 ก.ย. 2568 |